ข่าวสาร ข้อมูล ทุกด้านต้องรับฟัง ไม่เชื่อสิ่งที่เห็น ฟังข่าวสารเพียงฝ่ายเดียว ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว/ FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew ● ปรึกษาปัญหากฏหมาย ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์ ปัญหาติดต่อราชการ ฟรี ● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล, ● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work สำนักพิมพ์ดาวหาง www.sanamluang.bloggang.com สนใจติดต่อสอบถาม workingmailhome@hotmail.com

"เชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน"

ฉันไม่ชอบกฎหมาย
Blognone
Bookmark and Share

วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

พม.มอบ 41 โล่เชิดชูช่วยผู้ยากไร้

วันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6816 ข่าวสดรายวัน


พม.มอบ 41 โล่เชิดชูช่วยผู้ยากไร้




เมื่อวันที่ 27 ก.ค. ที่โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ (สท.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จัดงานประกาศเชิดชูเกียรติผู้ทำคุณประโยชน์ดีเด่นแก่ผู้อยู่ในภาวะยากลำบากและผู้อยู่ในภาวะยากลำบากที่ประพฤติตนดีเด่น ประจำปี 2552 โดยมีนายอิสสระ สมชัย รมว.การพัฒนาสังคมฯ เป็นประธาน มอบช่อดอกไม้และกล่าวตอนหนึ่งว่า กระทรวงพม.ได้คัดเลือกผู้ทำคุณประโยชน์ดีเด่นแก่ผู้อยู่ในภาวะยากลำบากฯ จำนวน 41 ราย แบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่
 
1.ผู้ทำคุณประโยชน์แก่ผู้อยู่ในภาวะยากลำบาก จำนวน 9 ราย อาทิ ด.ต.สมศักดิ์ บุญรัตน์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุมชนสัมพันธ์ปฏิบัติหน้าที่ "ครูตำรวจข้างถนน" กองบัญชาการตำรวจนครบาล นายสุรพงษ์ กองจันทึก ผู้เชี่ยวชาญสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญญาติ ซึ่งมีผลงานการช่วยเหลือชาวบ้าน ต.แม่อาย จ.เชียงใหม่ จำนวน 1,243 คน ได้รับสัญชาติไทย
2.องค์กรที่ทำคุณประโยชน์ฯ จำนวน 19 องค์กร อาทิ มูลนิธิกระจกเงา มีศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการค้ามนุษย์ กองทุนเด็กดอย ครูบ้านนอกช่วยเหลือผู้อยู่ในภาวะยากลำบาก มูลนิธิคุณพ่อเรย์ช่วยคนพิการและเด็กเร่ร่อนพัทยา เป็นต้น

 3.สื่อที่นำเสนอกิจกรรมเป็นประโยชน์จำนวน 5 ราย อาทิ รายการปลดหนี้ บางอ้อ คนละไม้คนละมือ เป็นต้น
4.บุคคลที่อยู่ในภาวะยากลำบากฯ จำนวน 8 ราย อาทิ น.ส.มะกูด ต่ออำนาจ ร่างกายพิการแขนและขาขาด มีฐานะยากจนแต่ขวนขวายประกอบอาชีพใช้ปากถักไหมพรมหาเลี้ยงครอบครัว ทั้งนี้บุคคลและองค์กรที่ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติจะเข้ารับประทานรางวัลโล่และเข็มเชิดชูเกียรติจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ในวันที่ 27 ก.ค. เวลา 16.00 น. ที่พระตำหนักสวนกุหลาบ

หน้า 11

http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROd01EVXdNekk0TURjMU1nPT0=&sectionid=TURNek5RPT0=&day=TWpBd09TMHdOeTB5T0E9PQ==

ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
http://www.sanamluang.bloggang.com
http://tham-manamai.blogspot.com
 
 




แบ่งปันรูปถ่ายกันอย่างง่ายดายด้วย Windows Live™ Photos ลากแล้วปล่อย

วันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

รถเข็นคนพิการต้นทุนต่ำมากคุณภาพของดีจากมทร.ธัญบุรี

รถเข็นคนพิการต้นทุนต่ำมากคุณภาพของดีจากมทร.ธัญบุรี
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 กรกฎาคม 2552 12:18 น.
       ชีวิตคนเราเลือกเกิดไม่ได้ การมีร่างกายครบ 32 สมบูรณ์ทุกประการนั้น ถือว่าโชคดีกว่าเป็นไหนๆ แม้จะมีหรือจน หากยังมีโอกาสทำมาหาเลี้ยงชีพได้ แต่สำหรับคนที่ต้องพิการมาแต่กำเนิดล่ะ ความลำบากของพวกเขาจะมากเท่าใด แค่การขยับแขน ขายังยากแล้ว จะนับอะไรกับการทำมาหาเลี้ยงชีพ แต่ขึ้นชื่อว่าคนไทยแล้วความมีน้ำใจช่วยเหลือต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันไม่เคยหายไป เช่นเดียวกับสถาบันแห่งหนึ่ง

ทีมผู้จัดทำรถเข็นคนพิการแบบประหยัด
       นอกจากการเรียน การสอนอย่างมีคุณภาพแล้ว ยังสร้างสรรค์ประโยชน์ต่อสังคมด้วย ที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้เป็นความตั้งใจดีๆ ของ  มทร.ธัญบุรี โดยนักศึกษา และอาจารย์ภาควิชาครุศาสตร์อุตสาหการ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล(มทร.) ธัญบุรี ที่ได้คิดค้นงานวิจัยเพื่อคนพิการขึ้นนั่นคือ “รถเข็นคนพิการควบคุมด้วยไมโครคอนโทรเลอร์ (PIC16F877)” ที่เอื้อประโยชน์มากมายสำหรับคนพิการ จากต้นทุนน้ำใจที่อยากช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ไปสู่การคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ที่ใช้ประโยชน์ได้จริง แถมราคายังถูกแบบสุดๆ ด้วย

       อาจารย์เดชฤทธิ์ มณีธรรม เจ้าของงานวิจัยเล่าว่า รถเข็นคนพิการที่ควบคุมด้วยไมโครคอนโทรเลอร์ (PIC16F877) เป็นรถเข็นกึ่งอัตโนมัติที่นำเอามอเตอร์ DC มาเป็นตัวขับเคลื่อนล้อของรถเข็นทั้งสองข้างโดยใช้ข้างละตัวและใช้อีกหนึ่งตัวเพื่อควบคุมทิศทางในการเคลื่อนที่ของรถเข็น โดยใช้ คีย์สวิตซ์ เป็นตัวบังคับซึ่งจะช่วยให้ผู้พิการสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ โดยหลักการทำงานคือ1.เริ่มจากการเขียนโปรแกรม โดยภาษาซี (ภาษาระบบคอมพิวเตอร์)
       
       แล้วทำการแปลงเป็น hex.file (ภาษาเครื่องจักร Machine Languages) แล้วต่อเข้าไปที่CPU 2.Set ปุ่มการทำงานโดยการดาวน์โหลดซอฟแวร์ลงไป เพื่อตั้งระบบKEY PAD เพื่อกำหนดทิศทางการเคลื่อนที่ของรถเข็น เช่น เลข 4 ไปซ้าย เลข 6 ไปขวา เลข 2 ไปหน้า และเลข8 ถอยหลัง และ/หรือ ปุ่มที่เหลืออาจตั้งค่าให้เป็นไฟไซเรนเพื่อเวลาคนพิการต้องการความช่วยเหลือ เป็นต้น
       
       ขั้นตอนสุดท้าย SET ปุ่มปรับความเร็ว เพื่อให้ผู้ป่วยเลือกความเร็วระดับไหน ตามความต้องการ ตัวรถเข็นรับน้ำหนักมากสุดถึง130 กิโลกรัม อัตราความเร็ว 7 กม./ชม. ตัวมอเตอร์ DC ขนาด 24 โวลท์ 3 ตัว เวลาการใช้งานสูงสุด 2-3 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับผู้ใช้งาน
       

       ราคาต้นทุนเฉลี่ยอยู่ที่
10,000-40,000 บาท
ในขณะที่ของต่างประเทศราคาอยู่ที่ 150,000-300,000 บาท ถูกกว่าทั่วไปเกือบสิบเท่าตัว
       
       นอกจากนี้ตัวไมโครคอนโทรเลอร์ (Microcontroller) ยังมีหลายตระกูลด้วยกัน ที่นิยมใช้กันมากก็คือ ตระกูล(PIC16F877) ที่ใช้ในงานวิจัยนี้ จุดเด่นของมันคือ สามารถนำมาใช้ได้หลากหลาย หาซื้อได้สะดวก และสามารถเขียนโปรแกรมคำสั่งได้หลายครั้ง
       
       อาจารย์ยังย้ำทิ้งท้ายอีกว่า หากมีผู้ร่วมสนับสนุนทุน และวัสดุอุปกรณ์ ก็ยินดีอย่างมากที่ จะประกอบตัวรถเข็น แจกจ่ายให้ผู้พิการได้ใช้ประโยชน์อย่างทั่วถึงมากขึ้นและกระจายวงกว้างมากขึ้นเพื่อยกระดับคนพิการอีกด้วย"...
http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9520000084705

--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
http://www.sanamluang.bloggang.com
http://tham-manamai.blogspot.com
http://lifeanddeath2mcu.blogspot.com
http://www.parent-youth.net
http://www.tzuchithailand.org
http://www.presscouncil.or.th
http://ilaw.or.th
http://www.thaihof.org
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://www.projectlib.in.th
http://elibrary.nfe.go.th
http://www.nstda.or.th/th
http://www.arda.or.th
http://www.nppdo.go.th
http://www.tlcthai.com
http://dbd-52.hi5.com
http://www.oknation.net/blog/assistance
http://weblogcamp2009.blogspot.com/

วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

แจ้งย้ายสำนักงานใหม่ขององค์การคนพิการสากลประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก// เพิ่มเติม



Please visit blog.Thank you so much.
http://www.sanamluang.bloggang.com
http://tham-manamai.blogspot.com
http://lifeanddeath2mcu.blogspot.com
http://www.thaiyogainstitute.com
http://www.parent-youth.net
http://www.thaihof.org
http://www.tzuchithailand.org
http://www.presscouncil.or.th
http://elibrary.nfe.go.th
http://ilaw.or.th
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://icann-ncuc.ning.com
http://dbd-52.hi5.com
http://www.truecorp.co.th
http://www.industry4u.com
http://logistics.dpim.go.th

--- On Wed, 7/22/09, JeaB <kwanruthai@dpiap.org> wrote:

From: JeaB <kwanruthai@dpiap.org>
Subject: แจ้งย้ายสำนักงานใหม่ขององค์การคนพิการสากลประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก// เพิ่มเติม
To: 
Date: Wednesday, July 22, 2009, 10:30 PM

เรียนทุกท่าน

 

ด้วยองค์การคนพิการสากลประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก จะย้ายที่ทำการสำนักงานจากเลขที่  ๒๙/๔๘๖ หมู่ ๙ ซอย ๑๒ เมืองทองธานี  ตำบลบางพูด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี รหัสไปรษณีย์ ๑๑๑๒๐ ไปยังสถานที่ทำการแห่งใหม่ เลขที่ ๙๒ ซอย ราชครู  ถนน พหลโยธิน ๕   แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์ ๑๐๔๐๐  โทรศัพท์ ๐๒ –๒๗๑๒๑๒๓ โทรสาร ๐๒ –๒๗๑๒๑๒๔  Website http://www.dpiap.org   ตั้งแต่วันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๕๒ เป็นต้นไป

 

            จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ

 

ขออภัยหากอีเมลฉบับนี้เป็นการรบกวน หรือส่งซ้ำ

 

 

ขวัญฤทัย  สว่างศรี

ผู้ประสานงานโครงการในประเทศ

องค์การคนพิการสากลประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก

29/486 หมู่9 ซอย12 เมืองทองธานี                                          

ต.บางพูด  อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120

โทรศัพท์ 02 - 5034268 โทรสาร 02- 5034269

มือถือ 086 6222602

 

 

 

 

 

 


วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ไม่มีมือเท้าให้งอแต่ไม่ขอพึ่งใคร พิการแค่ตัว หัวใจแสนประเสริฐ

ไม่มีมือเท้าให้งอแต่ไม่ขอพึ่งใคร พิการแค่ตัว หัวใจแสนประเสริฐ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 กรกฎาคม 2552 20:33 น.
เดลิเมล์ – นิก วูจิสิก เกิดมาในสภาพไม่มีทั้งแขนและขา แต่เขาไม่ปล่อยให้ความพิกลพิการหยุดยั้งตัวเอง ชายหนุ่มวัย 26 ปีผู้กล้าหาญ เล่นทั้งฟุตบอล กอล์ฟ ว่ายน้ำ เซิร์ฟ
       
       นิกมีเท้าเล็กๆ ที่สะโพกซ้าย ที่ช่วยให้เขาทรงตัวและเตะฟุตบอลได้
       
       เท้าข้างเดียวนี้ยังใช้พิมพ์ เขียนหนังสือและหยิบจับสิ่งต่างๆ
       
       “ผมเรียกมันว่าขาไก่” นิกพูดติดตลก “และคงแย่ถ้าไม่มีมัน”
       
       ชายหนุ่มที่เกิดในเมลเบิร์น ออสเตรเลีย แต่ปัจจุบันอาศัยอยู่ในลอสแองเจลีส สหรัฐฯ ยังเล่าว่า “ผมลอยตัวในน้ำได้เพราะร่างกาย 80% คือปอด และผมใช้ขาไก่เป็นใบพัดเรือ”
       
       ด้วยความศรัทธาในนิกายอีแวนเจลิก นิกเลือกที่จะครองความบริสุทธิ์ไว้จนถึงวันแต่งงาน แม้ที่ผ่านมาเขาคบหาผู้หญิงมาแล้วหลายคนก็ตาม
       
       “เขาถ่อมตัวมาก แต่มีผู้หญิงชวนเขาแต่งงานมาตลอดนะ” สตีฟ แอปเพล เพื่อนที่ทำงานประชาสัมพันธ์เล่า
       
       นิกไม่ได้เล่นกีฬาทางน้ำได้เท่านั้น เขายังตีกอล์ฟโดยหนีบไม้กอล์ฟไว้ใต้คาง และเป็นแฟนลูกหนังเมืองสิงโตคำรามตัวยง
       
       ย้อนกลับไปตอนที่นิกคลอดออกมา พ่อของเขาช็อกถึงขนาดวิ่งออกจากห้องพยาบาลไปอาเจียน ส่วนแม่ก็ตระหนกเสียขวัญจนไม่กล้าอุ้มลูกชายจนกระทั่งผ่านไปสี่เดือน
       
       ความพิการของนิกเกิดขึ้นโดยไม่มีคำอธิบายทางการแพทย์ใดๆ อาการที่นานๆ จะพบสักครั้งนี้มีชื่อเรียกว่า Phocomelia หรือโรคแขนขาลีบผิดปกติ ครอบครัววูจิสิกใช้เวลาหลายปีเฝ้าถามไถ่ผู้เชี่ยวชาญว่าเพราะเหตุใดเรื่องโหดร้ายนี้จึงเกิดกับนิก
       
       “แม่ผมเป็นพยาบาล ท่านทำทุกอย่างถูกต้องระหว่างตั้งท้อง แต่แม่ยังไม่วายโทษตัวเอง
       
       “เป็นเรื่องยากที่พ่อแม่จะทำใจได้ แต่นับจากที่ผมเกิดมา ท่านทั้งสองพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้ผมสามารถพึ่งพิงตัวเองได้
       
       “พ่ออุ้มผมลงน้ำตั้งแต่ 18 เดือน และคะยั้นคะยอให้ผมหัดว่ายน้ำ โตขึ้นมาผมยังได้เล่นสเก็ตบอร์ดและฟุตบอล ผมรักพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ”
       
       พ่อของนิกเป็นโปรแกรมเมอร์และนักบัญชี เขาสอนให้ลูกชายตัวน้อยหัดพิมพ์ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ส่วนแม่ทำอุปกรณ์พลาสติกพิเศษเพื่อใช้เป็นตัวยึดปากกาและดินสอกับนิ้ว
       
       แม้เสี่ยงที่จะถูกล้อและรังแก แต่พ่อแม่ยืนยันให้นิกเข้าเรียนในโรงเรียนปกติ
       
       “นั่นอาจเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดที่พวกท่านทำเพื่อผม มันยากมากๆ แต่ก็ทำให้ผมช่วยเหลือตัวเองได้” นิกที่ถูกเพื่อนล้อและแกล้ง มีรถเข็นไฟฟ้าและทีมผู้ดูแลคอยให้ความช่วยเหลือ เล่าและว่า
       
       “ตอนแปดขวบผมรู้สึกแย่มากๆ ผมร้องไห้กับแม่และบอกว่าอยากฆ่าตัวตาย รู้สึกอ้างว้างและขมขื่น ผมเกลียดพระเจ้าที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้และกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าไม่มีพ่อแม่คอยดูแล
       
       “ผมแปรงฟันได้โดยใช้แปรงสีฟันที่ติดอยู่กับผนัง และใช้อุปกรณ์ปั๊มครีมอาบน้ำและแชมพูอาบน้ำสระผม แต่ยังมีอีกหลายอย่างเหลือเกินที่ผมทำไม่ได้” นิกที่จบปริญญาตรีสาขาการวางแผนการเงินและอสังหาริมทรัพย์ ย้อนเรื่องราวชีวิตในวัยเด็ก
       
       เมื่ออายุสิบขวบ นิกพยายามฆ่าตัวตายในอ่างอาบน้ำ แต่ไม่สำเร็จ
       
       “ผมรู้สึกว่าตัวเองไม่มีเป้าหมายชีวิต เมื่อขาดเป้าหมายและความเข้มแข็ง ก็ยากที่จะอดทนมีชีวิตอยู่ต่อไป”
       
       แต่ด้วยความช่วยเหลือของพ่อแม่ เพื่อน และศาสนา นิกสามารถฝ่าฟันอุปสรรคทั้งหลายทั้งปวงและกลายสัญลักษณ์ของชัยชนะเหนือเคราะห์กรรมที่เกิดขึ้นสำหรับคนทั่วโลก
       
       ปัจจุบัน นิกเป็นผู้บรรยายเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น เขาเดินทางมาแล้วกว่า 20 ประเทศ และบอกเล่าเรื่องราวเพื่อสร้างความหวังและกำลังใจให้ผู้คน 110,000 คน
       
       “ตอนอายุ 13 ปี ผมได้อ่านบทความในหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งเกี่ยวกับชายพิการที่สามารถประสบความสำเร็จในหลายๆ อย่างและช่วยเหลือผู้อื่น
       
       “ตอนนั้นผมตระหนักว่าพระเจ้าสร้างให้เราเป็นแบบนี้เพื่อให้เรามอบความหวังให้แก่ผู้อื่น บทความชิ้นนั้นเป็นแรงบันดาลใจให้ผม ทำให้ผมตัดสินใจว่าจะใช้ชีวิตของตัวเองให้กำลังใจเพื่อให้ผู้อื่นมีความกล้าเหมือนที่บทความชิ้นนั้นทำให้ผมรู้สึกแบบนี้
       
       “และผมกลับรู้สึกขอบคุณในสิ่งที่ตัวเองมี และเลิกโกรธเกรี้ยวกับสิ่งที่ไม่มี
       
       “ผมมองตัวเองในกระจกและบอกว่า ‘นายรู้ว่าโลกทำถูกแล้ว รู้ว่านายไม่มีแขนขา แต่นั่นจะไม่สามารถปิดกั้นดวงตาของนายจากความสวยงามเด็ดขาด’ และผมอยากมุ่งมั่นกับสิ่งดีๆ ที่มีอยู่”
       
       ปี 1990 นิกได้รับรางวัลพลเมืองรุ่นเยาว์ดีเด่นประจำปีของออสเตรเลียจากความกล้าหาญและมุ่งมั่น
       
       “เวลามีเด็กเจอผมและถามว่า ‘เกิดอะไรขึ้น?’ ผมจะกระซิบตอบพวกเขาว่า ‘เพราะบุหรี่’” นิกหัวเราะกับคำตอบของตัวเอง
       
       “ครั้งหนึ่งผมนั่งอยู่ในรถที่กำลังติดไฟแดง มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่บนฟุตบาธและพยายามมองผม เธอเห็นแค่หัวผมโผล่ออกมาจากหน้าต่าง ผมจึงตัดสินใจหมุนตัว 360 องศาบนเบาะรถเพื่อแกล้งเธอ
       
       “ได้ผล..เด็กคนนั้นหน้าตาตื่นและวิ่งจี๋หายไปเลย”
       
       นิกเริ่มออกท่องโลก ปี 2008 เขาไปฮาวายและได้พบกับครูสอนกระดานโต้คลื่น เบธานี แฮมิลตัน ที่เคยถูกฉลามกัดแขนตอนอายุ 12 ขวบ
       
       “เธอเจ๋งมาก เธอสอนให้ผมเล่นเซิร์ฟ ตอนแรกผมก็กลัวอยู่เหมือนกัน แต่พอทำได้กลับรู้สึกยอดมาก ว่าไปแล้วผมโต้คลื่นเก่งพอดูเลย”
       
       ไม่นานนิกเรียนรู้วิธีหมุนตัว 360 องศาบนบอร์ด ที่ทำให้เขาได้ขึ้นปกนิตยสารเซิร์ฟเฟอร์ภายใน 48 ชั่วโมง
       
       “ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน เป็นเพราะจุดศูนย์ถ่วงผมต่ำ ผมจึงทรงตัวได้ดี”
       
       เขาย้ายไปอยู่ลอสแองเจลีสเมื่อสองปีที่แล้ว และวางแผนท่องโลกต่อ ปีนี้เขาจะไปอเมริกาใต้และตะวันออกกลาง
       
       “ผมบอกให้คนอื่นล้มแล้วลุกและรักตัวเอง ถ้าผมสามารถให้กำลังใจใครได้แม้เพียงคนเดียว ผมถือว่าชีวิตผมคุ้มค่าแล้วที่ได้เกิดมา”
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
อุปกรณ์พิเศษจากแม่เพื่อให้นิกเขียนหนังสือได้เหมือนเด็กอื่น

นิกว่ายน้ำอย่างมีความสุข

เขาอยากแต่งงานมีครอบครัว แต่ยังรอ ‘คนที่ใช่’
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9520000076791

--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
http://www.sanamluang.bloggang.com
http://tham-manamai.blogspot.com
http://lifeanddeath2mcu.blogspot.com
http://www.parent-youth.net
http://www.tzuchithailand.org
http://www.presscouncil.or.th
http://ilaw.or.th
http://www.pnac-th.org
http://www.thaihof.org
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://elibrary.nfe.go.th
http://dbd-52.hi5.com
http://www.thaisara.com
http://www.rmutr.ac.th

วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

[Food not Bombs Thailand] ขอความร่วมมือ ประชาสัมพันธ์โครงการ Youth Action Fund (Thailand) ให้เงินทุนโครงการเยาวชนใช้สื่อใหม่สร้างสรรค์สังคม/small grants for youth-driven new media projects for open society



 
From: Food Not Bombs Thailand <fnb.bkk@gmail.com>
Date: ก.ค. 9, 2009 12:55 ก่อนเที่ยง
Subject: [Food not Bombs Thailand]  ขอความร่วมมือ ประชาสัมพันธ์โครงการ Youth Action Fund (Thailand) ให้เงินทุนโครงการเยาวชนใช้สื่อใหม่สร้างสรรค์สังคม/small grants for youth-driven new media projects for open society
To: 




(For English, please scroll down)

สวัสดีคะ 

ดิฉันชื่อ อริศา คีตะนิธินันท์ เป็นผู้ประสานงานโครงการ Youth Action Fund (Thailand).  

Youth Action Fund (Thailand) เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่าย Youth Action Fund นาๆชาติของ Open Society Institute-Youth Initiative (OSI-YI) สำหรับประเทศไทยโครงการนี้ให้เงินทุนขนาดเล็ก (ประมาณ 5,000-60,000 บาท) กับโครงการของเยาวชน ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ "สื่อใหม่" หรือ "new media" ซึ่งรวมไปถึงเทคโนโลยีดิจิตอล เทคโนโลยีด้านการสื่อสาร และระบบเครือข่าย เช่น อินเตอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือ การถ่ายภาพ การถ่ายวีดีโอ ฯลฯ เพื่อ:
การพัฒนาคุณภาพ และ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของ "สื่อใหม่" (new media)
ความเสมอภาคทางด้านกฎหมาย และ การเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมของคนในสังคม
การศึกษา โดยเฉพาะในด้าน สิทธิ และ หน้าที่ของประชาชน
การสังเกตุการการทำงานของรัฐบาลในด้าน สิทธิมนุษยชน และ ประชาธิปไตย
การส่งเสริมและสนับสนุนสิทธิของประชาชนในการมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจของรัฐบาล 

ผู้ที่สนใจโครงการนี้สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.youthafasia.org เราเปิดรับแนวคิดโครงการ (concept paper) รอบที่ 1 ตั้งแต่ 15 มิ.ย. - 31 ก.ค. 2552 คะ

ดิฉันได้แนบ  รายละเอียดโครงการทั้งภาษาไทยและอังกฤษ และ poster มากับ email นี้ด้วย หากมีคำถามเพิ่มเติมสอบถามมาได้ที่ contact@youthafasia.org คะ

ด้วยความเคารพอย่างสูง
อริศา คีตะนิธินันท์

 

To whom it may concern:

My name is Alisa Keetanitinun. I'm a program coordinator for Youth Action Fund (Thailand), an initiative from Open Society Institute-Youth Initiative (OSI-YI), which gives small grants ($200-$2,000) to youth-driven (15-29 years old) projects related to the use of new media, which encompasses digital, computerized, mobile, and networked information and communication technologies, aiming to address the following issues:

-Alternative/new media development
-Access to justice for vulnerable groups
-Citizen education on rights and responsibilities
-Monitoring government's records on human rights and democracy
-Advocacy for the rights of citizens to participate in government decision-making processes
 
In Southeast Asia, Youth Action Fund is currently available to only youth residing in Thailand; but applicants can be of any nationalities.  I thought this program might be of interest to some of the youth/youth groups you work with.  Our first round of application is 15th Jun.-31st Jul. 2009.  For more information about YAF (Thailand), please visit www.youthafasia.org.  I've also attached YAF info. kit  in both Thai and English and poster with this email.   
 
If you have further questions, please feel free to contact me at  contact@youthafasia.org

Regards,
Alisa Keetanitnun 

 


 


 


Alisa Keetanitinun
Program Coordinator
Youth Action Fund (Thailand)
+66.8.6.790.5063

 

 

 

 


--~--~---------~--~----~------------~-------~--~----~
You received this message because you are subscribed to the Google Groups "Food not Bombs Thailand" group.
To post to this group, send email to food-not-bombs-thailand@googlegroups.com
To unsubscribe from this group, send email to food-not-bombs-thailand+unsubscribe@googlegroups.com
For more options, visit this group at http://groups.google.com/group/food-not-bombs-thailand?hl=en
-~----------~----~----~----~------~----~------~--~---




--
ขอเชิญอ่าน  blog.Thank you so much.
http://www.sanamluang.bloggang.com
http://tham-manamai.blogspot.com
http://lifeanddeath2mcu.blogspot.com
http://www.thaiyogainstitute.com
http://www.thaihof.org
http://www.parent-youth.net
http://www.tzuchithailand.org
http://www.presscouncil.or.th
http://www.pdc.go.th
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://www.biz652.com
http://dbd-52.hi5.com

วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

โชว์เงียบ...ที่ไม่เหงา

วันที่ 08 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11442 มติชนรายวัน


โชว์เงียบ...ที่ไม่เหงา





โชว์ของ มศว.

"ความสุข" สามารถสร้างขึ้นได้ด้วยการแบ่งปัน ไม่ว่าจะอยู่บนโลกใบไหนก็ตาม อย่างผู้ที่บกพร่องทางการได้ยิน แต่พวกเขาสามารถได้รับความสุขโดยไม่มีอุปสรรคมาขวางกั้นได้จากการแบ่งปันจากรายการ "คิดข้ามเมฆ" ที่จัดการแข่งขันภายใต้แนวคิด "โชว์เงียบ ที่ไม่เหงา" ด้วยการนำนิสิต นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหา วิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ร่วมประกวดออกแบบการแสดงให้กับเด็กๆ หูหนวกได้ชม ซึ่งทีมที่ชนะเลิศจะได้ร่วมการแสดงคอนเสิร์ต Love is hear คอนเสิร์ตที่คนหูดีจะฟังดนตรีพร้อมคนหูหนวก

(บน) น้องจากโรงเรียนเศรษฐเสถียรดูโชว์ (ล่าง) ให้คะแนน



ในวันคัดเลือกการแข่งขัน ทั้งสองมหาวิทยาลัย ต่างต้องแสดงละครให้เด็กๆ จากโรงเรียนเศรษฐเสถียร ชมเพื่อให้พวกเขาให้คะแนน พร้อมวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากมูลนิธิสื่อชาวบ้าน (มะขามป้อม) ครูสอนภาษามือ ผู้อำนวยการจากโรงเรียนเศรษฐเสถียร เป็นผู้ให้คะแนน ซึ่งทั้ง 2 มหาวิทยาลัย ต่างซุ่มฝึกซ้อมกันอย่างแข็งขัน พร้อมเวิร์กช็อปมาคลุกคลีกับเด็กๆ หูหนวกที่โรงเรียนเศรษฐเสถียร เพื่อเรียนรู้ภาษามือ และความต้องการของเด็กๆ ซึ่งทีมที่สามารถได้ใจคณะกรรมการมากที่สุดเป็นของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาการแสดง เฉือนกับมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒเพียงนิดเดียว

(บน) ทีม มศว. (ล่าง) ทีม มธ.



"เบล" กรวีร์ ทิพย์สุข นักศึกษาปีที่ 3 และหนึ่งในนักแสดงนำ บอกว่า การแสดงชื่อว่าอร่อยเหาะ เป็นการแสดงระหว่างคนได้ยินปกติ กับคนพิการหูหนวกมาทำอาหารร่วมกัน แต่คุยกันไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจกันทำให้เกิดปัญหา

"การแสดงเรื่องนี้เป็นการสื่อถึงสะพานเชื่อมโลกเงียบที่สื่อสารกันไม่เข้าใจ ซึ่งความจริงแล้วคนที่หูหนวกสามารถอยู่ร่วมกับคนปกติได้ หากมีความเข้าใจกัน ซึ่งอยู่ที่การกระทำมากกว่า อยู่ที่ความสามัคคี และการแสดงเรื่องนี้จะนำเรื่องกลิ่น รส มาสื่อด้วย ทำให้เด็กๆ ได้สัมผัสได้จริง"

ร่วมเป็นกำลังใจและชมการแสดงของพวกเขาได้ในคอนเสิร์ตวันที่ 9 กรกฎาคม เวลา 19.00 น. ที่โรงหนังสกาลา


หน้า 25
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01lad02080752&sectionid=0115&day=2009-07-08

--
  ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
http://www.sanamluang.bloggang.com
http://tham-manamai.blogspot.com
http://lifeanddeath2mcu.blogspot.com
http://www.thaiyogainstitute.com
http://www.thaihof.org
http://www.parent-youth.net
http://www.tzuchithailand.org
http://www.presscouncil.or.th
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://ilaw.or.th
http://elibrary.nfe.go.th
http://www.pdc.go.th
http://www.biz652.com
http://dbd-52.hi5.com

ใช้ฟันปลูกถ่ายในเบ้าตา หนุ่มดีใจกลับมามองเห็นอีก


วันที่ 07 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6795 ข่าวสดรายวัน


ใช้ฟันปลูกถ่ายในเบ้าตา หนุ่มดีใจกลับมามองเห็นอีก





มาร์ติน โจนส์ จากเซาท์ยอร์กเชียร์ ประเทศอังกฤษ พิการตาบอดจากกระจกตา สามารถกลับมามองเห็นอีกครั้ง เมื่อนายแพทย์คริสโตเฟอร์ หลิว จากคลินิกโรคตาซัสเส็กซ์ ผู้คิดค้นเทคนิคนี้ได้ทำการผ่าตัดให้ โดยปลูกถ่ายฟันเข้าไปในลูกตา การผ่าตัดในลักษณะดังกล่าวมีไม่ถึง 50 รายในอังกฤษ

เมื่อ 12 ปีที่แล้วโจนส์ได้รับอุบัติเหตุอลูมิเนียมร้อนระเบิดใส่ ขณะทำงานอยู่ที่โรงเก็บและรับซื้อของเก่า ทำให้มีบาดแผลไฟไหม้ถึง 37% จนต้องควักตาซ้ายออก แต่แพทย์เก็บตาขวาไว้ได้ แม้ว่าเขาจะมองไม่เห็น



สำหรับขั้นตอนการรักษาเริ่มจาก แพทย์ต้องถอนฟันของโจนส์ออกมาเหลาให้พอดี เพื่อนำไปปลูกถ่ายในลูกตา การที่ต้องใช้ฟันเป็นเพราะถ้าใช้พลาสติกที่มีลักษณะเดียวกันแล้ว ร่างกายอาจไม่รับสิ่งแปลกปลอม

ต่อมาคือนำเนื้อเยื่อจากกระพุ้งแก้มมาครอบที่ดวงตาเป็นเวลา 2 เดือน เพื่อเลี้ยงให้หลอดเลือดเจริญเติบโต เมื่อได้เวลาแล้วก็เอาฟันเข้าไปปลูกถ่ายในเบ้าตา ซึ่งฟันนี้เป็นที่ยึดเลนส์ แล้วแพทย์จะเจาะรูที่เลนส์ตาเพื่อให้ลำแสงส่องผ่านมาได้ เท่านี้ตาก็กลับมามองเห็นได้อีกครั้ง

โจนส์ กล่าวว่า "การกลับมามองเห็นอีกครั้งได้เปลี่ยนชีวิตของผมไปอย่างสิ้นเชิง มันเป็นของขวัญล้ำค่า บางคนอาจไม่เห็นถึงความสำคัญของตาจนกว่าจะสูญเสียมันไป"

หน้า 29
http://matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROMFpXTXdNVEEzTURjMU1nPT0=&sectionid=TURNeU5nPT0=&day=TWpBd09TMHdOeTB3Tnc9PQ==

ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
http://www.sanamluang.bloggang.com
http://tham-manamai.blogspot.com




ดูส่วนอื่นๆ ของ Windows Live™ มากกว่าเมล–Windows Live™ เป็นยิ่งกว่ากล่องรับอีเมลของคุณ มากกว่าข้อความ

วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ดึงหมอดูตาบอดดูดวงฮอตไลน์


Pic_17883

พก. ร่วมกับบริษัทร่วมจัดหางานเอกชนเพื่อส่งเสริมให้มีการจ้างงานคนพิการเกิดขึ้น  เน้นงานด้านการพยากรณ์ ทำนายโชคชะตาทางโทรศัพท์ ผู้พิการทางสายตาสามารถทำงานได้ โดยสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยก็มีหลักสูตรในการอบรมความรู้ศาสตร์ทางด้านนี้ ...

นางกิ่งแก้ว อินหว่าง เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ (พก.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ พก.ได้หารือร่วมกับบริษัทร่วมจัดหางานเอกชนเพื่อส่งเสริมให้มีการจ้างงานคนพิการเกิดขึ้น โดยเน้นงานด้านการพยากรณ์ ทำนายโชคชะตาทางโทรศัพท์ ซึ่งผู้พิการทางสายตาสามารถทำงานได้ โดยสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยก็มีหลักสูตรในการอบรมความรู้ศาสตร์ทางด้านการพยากรณ์ ทำนายโชคชะตา ซึ่งการ หางานรองรับผู้พิการ ตรงส่วนนี้น่าจะช่วยให้เกิดความ มั่นคงในด้านอาชีพ และช่วยส่งเสริมพัฒนาศักยภาพของตัวผู้พิการเองด้วย สำหรับผลตอบแทนหากมีลูกค้าโทรศัพท์ เข้ามาใช้บริการ ผู้พิการจะได้รับค่าตอบแทนนาทีละ 3 บาท  ขณะนี้ พก.ได้มอบหมายให้บริษัทเอกชนประสานกับสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยโดยตรง เพื่อจัดหาผู้พิการทางสายตาที่สนใจในการทำงานตรงนี้ ขณะนี้มีผู้ให้ความสนใจแล้วกว่า 20 คน ทั้งนี้ พก.พยายามสนับสนุนให้เกิดการจ้างงานแก่ผู้พิการเกิดขึ้นให้มากที่สุด แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับการให้ความร่วมมือของบริษัท ห้างร้านต่างๆ ที่จะให้โอกาสแก่ผู้พิการด้วย.

ทีมข่าวการศึกษา

http://www.thairath.co.th/content/edu/17883
--
Please visit my blog.Thank you so much.
http://www.sanamluang.bloggang.com
http://tham-manamai.blogspot.com
http://lifeanddeath2mcu.blogspot.com
http://www.thaiyogainstitute.com
http://www.thaihof.org
http://www.parent-youth.net
http://www.tzuchithailand.org
http://www.presscouncil.or.th
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://www.pdc.go.th
http://www.biz652.com
http://dbd-52.hi5.com

วันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ห่วงหาเหี้ย


วันที่ 05 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11439 มติชนรายวัน


ห่วงหาเหี้ย


คอลัมน์ เดอะก็อดมาเธอร์ คนนอกกรอบ

โดย kokuryo1952@yahoo.com




ปลายเดือนจนถึงต้นเดือนมานี้ แม่ได้ยินเรื่องสนุกๆ มาตั้งหลายเรื่อง แม้แต่เรื่องเหี้ย (อย่าถือสาคนบ้านนอกโบราณอย่างแม่เลยที่เรียก "เหี้ย" ถนัดปากยิ่งกว่าตัวเงินตัวทองอย่างพวกผู้ลากมากดี)

เรื่องแรก เรื่องการออกหวยที่ชาวบ้านร้านตลาดอย่างเราจะต้องสนใจเป็นพิเศษ เป็นวาระแห่งชาติที่ต้องตั้งหน้าตั้งตาเกาะติด ไม่ยอมกะพริบตา ขนาดหลับแล้วก็ยังอุตส่าห์ฝันเป็นตัวเลขจนได้

ตกลง ไอ้เจ้าเครื่องออกหวยอัตโนมัติที่ประมูลกันมาแทบล้มประดาตายนั่นมาหลายปี จะได้ใช้ไหม เพราะแม่จะยินดีมากที่รัฐบาลงัดเจ้าพวกนี้ขึ้นมาอยู่บนดินได้เสียที โดยไม่เคอะเขินว่า เป็นรัฐบาลที่เห็นด้วยกับการพนันให้รู้แล้วรู้รอดไป

แม่ไม่อยากได้ยินใครมาบ่นว่า พ่อหนูรูปงามของแม่ว่า "อยาก" แต่ "อาย" อีกต่อไป หัดหลับตาซะข้างหนึ่ง หรือหลับทั้งสองข้างเลยก็ได้ เพื่อจะได้ไม่ต้องเห็นเรื่องน่าเกลียดน่ากลัวเหล่านั้น

แต่สำหรับวาระชาวบ้านอย่างเรา เครื่องออกหวยที่เขาพยายามจะเรียกชื่อให้มันดูดี ไม่เสียภาพพจน์คุณหนูหล่อของแม่ว่า "หวยไฮล็อต" นั้นคงจะช่วยให้ขุนน้ำขุนนางกระทรวงคลังได้เงินภาษีไปบำรุงประเทศ หรือจะเอาไปแจกใครก็ตามที

แม่ก็จะไม่ไปถกเถียงด้วยให้เสียบรรยากาศ แต่แม่มีความเชื่ออย่างแรงกล้าว่า เจ้ามือหวยใต้ดินที่ยังปฏิบัติภารกิจเถื่อนอย่างเคร่งครัดอยู่ทั่วประเทศขณะนี้ ควรจะเพิ่มเงินรางวัลมากขึ้นกว่าเดิมซะดีๆ เพราะคู่แข่งนั้นกำลังมาแรงมาก

นึกถึงตัวเลขตรงนี้แล้ว แม่ก็ได้แต่แอบยิ้มเงียบๆ และสาบานว่า จะไม่กระโตกกระตากโวยวายใดๆ ต่อไปให้เสียบรรยากาศการลงทุน

อีกเรื่องหนึ่ง คือเรื่องลูกหมีแพนดาที่กำลังน่ารักน่าเอ็นดูนั้น ได้สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศมากมาย จนเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก อย่างน้อยการท่องเที่ยวของคนบ้านเราที่เมืองเชียงใหม่ก็คึกคักขึ้นมาทันตาเห็น ทำให้เกิดความรู้สึกว่า คนไทยในบ้านเมืองเรานั้นมีความรักสัตว์มาก แต่แม่ก็ยังกังวลอยู่ลึกๆ ว่า เราจะรักสัตว์เพียงเพราะมันคือ หมีแพนดาที่หาได้ยากหรือเปล่า

เพราะยังมีสัตว์อีกมากมายในประเทศนี้ที่ดูเหมือนเราจะไม่เอาใจใส่มันเอาเสียเลย เช่น ลิง ช้าง สุนัข แมว ฯลฯ ที่ร่อนเร่พเนจรอยู่ทั่วเมือง และที่ไม่ลืมคือขวัญใจของคนทำเนียบ-เหี้ย

ที่เห็นๆ ก็คือ ช้างบางตัวซึ่งกำลังน้อยอกน้อยใจที่ผู้คนกำลังห่างเหินจากมันไปหาสัตว์ต่างประเทศอย่างแพนดาเข้าทุกที จนต้องแสดงความน้อยใจให้ปรากฏ โดยวิ่งพลัดจากเจ้าของควาญเข้าไปกระทืบชาวบ้านตายไป 3-4 คนแก้กลุ้ม เพราะเมื่อคนยังรู้จักน้อยใจได้ เหตุไฉนช้างจะไม่รู้สึกน้อยใจบ้าง

วันดีคืนดี แม่สังเกตดูหน้าตาของรัฐมนตรีที่ดูแลทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมซึ่งมีหน้าที่ดูแลแม่น้ำป่าเขาและบรรดาสิงสาราสัตว์แล้วก็รู้สึกทึ่งกับท่าทางภูมิอกภูมิใจเต็มทีกับเรื่องหมีแพนดาที่เดินทางไปเจรจาต้าอวยกับเมืองจีนกลับมา

จนดูเหมือนไม่มีผลงานอื่นใดนอกจากเรื่องหมีแพนดา และยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกคล้ายกับว่า ภาระหน้าที่ของความเป็นรัฐมนตรีกระทรวงแห่งนี้มีเรื่องหมีแพนดาอยู่เรื่องเดียวเท่านั้นเอง ขนาดเรื่องมรดกโลกก็ยังรั้งท้าย ไม่เข้าตา (จนแม่นึกอัศจรรย์ใจเหมือนกันว่า บุคลิก รมว.ท่านนี้ยิ่งอ้วนก็จะยิ่งคล้ายแม่แพนดาเข้าทุกที)

ทำให้แม่แอบขำอยู่ว่า เรื่องของลูกหมีแพนด้าที่มีรายงานอยู่แทบจะทุกชั่วโมงข่าว คงจะทำให้ภาพพจน์ของทั้งรัฐบาลแลดูน่ารักน่าเอ็นดูขึ้นอย่างมากมาย โดยไม่จำเป็นต้องมีผลงานอื่นใด ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ, ชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย, การแก้ไขเรื่องไข้หวัด 2009 (ที่ล้มเหลว) หรือความสงบในบ้านเมือง แม่-ลูกแพนดาคู่นี้ช่วยเอาไว้ได้มากทีเดียว (แม่ไม่เกี่ยงหรอกนะถ้าจะขอพลเมืองกิตติมศักดิ์ให้)

เหลือแต่เรื่องเหี้ยเท่านั้นแหละ ที่แม่ยังเป็นห่วง แค่ผู้บริหารสำนักอนุรักษ์ป่าเกิดหวังดี แนะนำให้เรียกชื่อตัวเหี้ย ให้มีชื่อคล้ายเด็กผู้หญิงสาวๆ จนอาจเลยไปถึงคุณหญิงคุณนายว่า วรนุส ซึ่งเป็นชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ ก็ถูกรุมด่าว่ากล่าวจนไม่เป็นอันกินอันนอน โทษฐานเอาชื่อดีๆของคนไปตั้งเป็นเหี้ย

เพราะเหี้ยและคำว่า เหี้ย นั้นเป็นสัญลักษณ์ของความอัปมงคล สังเกตจากรูปร่างหน้าตาแล้วก็น่าเกลียดน่าชัง รับไม่ได้ จะมาตั้งชื่อให้เพราะอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น ทั้งที่มันก็ไม่เคยทำผิดคิดร้ายใดๆ กับใครเขา นอกจากชอบเดินวางมาดอยู่ในทำเนียบ

ความที่เหี้ยหน้าตาน่าเกลียดและน่าชัง ทำให้ใครเห็นก็อดกลัวไม่ได้ ส่วนที่ไม่กลัวพอเห็นแล้วก็นึกอยากฆ่าฟันให้ตายอย่างทารุณ ให้สมกับความขยะแขยง

ธรรมชาตินี่ก็แปลกนะ เหี้ยไม่ได้มีความดีเลวใดๆ แต่มันคือธรรมชาติ แต่ผู้คนเอาความเป็นธรรมชาติของเหี้ยมาเปรียบกับคนที่ทำสิ่งเลวร้าย แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่า คนหน้าตาเหี้ยจะต้องเป็นคนไม่ดีเสมอไป

แต่คนหน้าตาดี แล้วเหี้ยเงียบๆ นี่ซี กว่าจะรู้ตัวก็กินลึกแล้วนะ แม่ว่า

หน้า 11
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01pol02050752&sectionid=0133&day=2009-07-05





Chat online and in real-time with friends and family! Windows Live Messenger

วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

รออีกนิด! บีทีเอสอ่อนนุช-แบริ่ง พร้อมวิ่งปลายปี '53


รออีกนิด! บีทีเอสอ่อนนุช-แบริ่ง พร้อมวิ่งปลายปี '53
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 มิถุนายน 2552 17:12 น.
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000073975
       “สุขุมพันธุ์” ประกาศก้องบีอาร์ที สายช่องนนทรี-ราชพฤกษ์ ต้องเปิด 15 พ.ค.ปีหน้า พร้อมเปิดส่วนรถไฟฟ้าส่วนอ่อนนุช-แบริ่ง ปลายปี 53 ส่วนต่อขยายวงเวียนใหญ่-บางหว้า 15 พ.ค.2554 พร้อมกับบีอาร์ทีสายหมอชิต-นนทบุรี
       
       ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.เกี่ยวกับการผลักดันระบบขนส่งมวลชน ว่า หลังจากที่ กทม.เปิดให้บริการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีลมจากสะพานตากสิน-สถานีวงเวียนใหญ่ 2.2 กิโลเมตร ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.2552 จนขณะนี้มีผู้โดยสารใช้บริการกว่า 2 ล้านคน และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น อีกทั้งเป็นทางเลือกในการเดินทางของประชาชนชาวฝั่งธนบุรีควบคู่กับการใช้บริการระบบขนส่งมวลชนอื่น เช่น เรือโดยสาร และรถโดยสารประจำทาง ซึ่งในอนาคตคาดว่าจะมีผู้โดยสารมาใช้รถไฟฟ้าสายดังกล่าวมากขึ้น สำหรับส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีลมจากสถานีวงเวียนใหญ่-บางหว้า ยืนยันเปิดให้บริการได้ในวันที่ 15 พ.ค.2554 ส่วนต่อขยายอ่อนนุช-แบริ่ง ที่โครงสร้างพื้นฐานจะแล้วเสร็จในเดือน ส.ค.นี้ กำหนดเปิดให้บริการปลายปี 2553
       

       ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวอีกว่า สำหรับรถเมล์ด่วนพิเศษ BRT สายช่องนนทรี-ราชพฤกษ์ คณะผู้บริหารได้เร่งรัดให้ดำเนินการต่อไป โดยขณะนี้สถานีที่ 2-11 เกือบแล้วเสร็จ สถานีที่ 1 และ 12 น่าจะเสร็จเร็ววันนี้ ส่วนกรณีการร้องเรียนที่อยู่ในขั้นตอนของกรมสอบสวนคดีพิเศษนั้นก็จะได้ประสานอย่างใกล้ชิดต่อไป โดยกำหนดเปิดให้บริการ 15 พ.ค.2553 ส่วนเส้นทางหมอชิต-ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ เตรียมเดินหน้าต่อไป โดยจะขยายเส้นทางไปในพื้นที่ จ.นนทบุรี เพื่อรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นถึงวันละ 1.2 แสนคน จากเดิมสิ้นสุดที่ศูนย์ราชการมีผู้โดยสาร 7 หมื่นคนต่อวัน โดยกำหนดว่าสามารถเปิดใช้ 15 พ.ค.2554 พร้อมรถไฟฟ้าบางหว้า


--
Please visit my blog.Thank you so much.
http://www.sanamluang.bloggang.com
http://tham-manamai.blogspot.com
http://lifeanddeath2mcu.blogspot.com
http://www.parent-youth.net
http://www.tzuchithailand.org
http://www.presscouncil.or.th
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://www.pdc.go.th
http://www.biz652.com
http://dbd-52.hi5.com

รายการบล็อกของฉัน

ผู้ติดตาม

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
ข่าวสาร ข้อมูล ทุกด้านต้องรับฟัง ไม่เชื่อสิ่งที่เห็น ฟังข่าวสารเพียงฝ่ายเดียว ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew ● ปรึกษาปัญหากฏหมาย ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์ ปัญหาติดต่อราชการ ฟรี ● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล, ● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work สำนักพิมพ์ดาวหาง www.sanamluang.bloggang.com สนใจติดต่อสอบถาม workingmailhome@hotmail.com