ข่าวสาร ข้อมูล ทุกด้านต้องรับฟัง ไม่เชื่อสิ่งที่เห็น ฟังข่าวสารเพียงฝ่ายเดียว ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว/ FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew ● ปรึกษาปัญหากฏหมาย ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์ ปัญหาติดต่อราชการ ฟรี ● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล, ● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work สำนักพิมพ์ดาวหาง www.sanamluang.bloggang.com สนใจติดต่อสอบถาม workingmailhome@hotmail.com

"เชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน"

ฉันไม่ชอบกฎหมาย
Blognone
Bookmark and Share

วันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ห่วงหาเหี้ย


วันที่ 05 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11439 มติชนรายวัน


ห่วงหาเหี้ย


คอลัมน์ เดอะก็อดมาเธอร์ คนนอกกรอบ

โดย kokuryo1952@yahoo.com




ปลายเดือนจนถึงต้นเดือนมานี้ แม่ได้ยินเรื่องสนุกๆ มาตั้งหลายเรื่อง แม้แต่เรื่องเหี้ย (อย่าถือสาคนบ้านนอกโบราณอย่างแม่เลยที่เรียก "เหี้ย" ถนัดปากยิ่งกว่าตัวเงินตัวทองอย่างพวกผู้ลากมากดี)

เรื่องแรก เรื่องการออกหวยที่ชาวบ้านร้านตลาดอย่างเราจะต้องสนใจเป็นพิเศษ เป็นวาระแห่งชาติที่ต้องตั้งหน้าตั้งตาเกาะติด ไม่ยอมกะพริบตา ขนาดหลับแล้วก็ยังอุตส่าห์ฝันเป็นตัวเลขจนได้

ตกลง ไอ้เจ้าเครื่องออกหวยอัตโนมัติที่ประมูลกันมาแทบล้มประดาตายนั่นมาหลายปี จะได้ใช้ไหม เพราะแม่จะยินดีมากที่รัฐบาลงัดเจ้าพวกนี้ขึ้นมาอยู่บนดินได้เสียที โดยไม่เคอะเขินว่า เป็นรัฐบาลที่เห็นด้วยกับการพนันให้รู้แล้วรู้รอดไป

แม่ไม่อยากได้ยินใครมาบ่นว่า พ่อหนูรูปงามของแม่ว่า "อยาก" แต่ "อาย" อีกต่อไป หัดหลับตาซะข้างหนึ่ง หรือหลับทั้งสองข้างเลยก็ได้ เพื่อจะได้ไม่ต้องเห็นเรื่องน่าเกลียดน่ากลัวเหล่านั้น

แต่สำหรับวาระชาวบ้านอย่างเรา เครื่องออกหวยที่เขาพยายามจะเรียกชื่อให้มันดูดี ไม่เสียภาพพจน์คุณหนูหล่อของแม่ว่า "หวยไฮล็อต" นั้นคงจะช่วยให้ขุนน้ำขุนนางกระทรวงคลังได้เงินภาษีไปบำรุงประเทศ หรือจะเอาไปแจกใครก็ตามที

แม่ก็จะไม่ไปถกเถียงด้วยให้เสียบรรยากาศ แต่แม่มีความเชื่ออย่างแรงกล้าว่า เจ้ามือหวยใต้ดินที่ยังปฏิบัติภารกิจเถื่อนอย่างเคร่งครัดอยู่ทั่วประเทศขณะนี้ ควรจะเพิ่มเงินรางวัลมากขึ้นกว่าเดิมซะดีๆ เพราะคู่แข่งนั้นกำลังมาแรงมาก

นึกถึงตัวเลขตรงนี้แล้ว แม่ก็ได้แต่แอบยิ้มเงียบๆ และสาบานว่า จะไม่กระโตกกระตากโวยวายใดๆ ต่อไปให้เสียบรรยากาศการลงทุน

อีกเรื่องหนึ่ง คือเรื่องลูกหมีแพนดาที่กำลังน่ารักน่าเอ็นดูนั้น ได้สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศมากมาย จนเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก อย่างน้อยการท่องเที่ยวของคนบ้านเราที่เมืองเชียงใหม่ก็คึกคักขึ้นมาทันตาเห็น ทำให้เกิดความรู้สึกว่า คนไทยในบ้านเมืองเรานั้นมีความรักสัตว์มาก แต่แม่ก็ยังกังวลอยู่ลึกๆ ว่า เราจะรักสัตว์เพียงเพราะมันคือ หมีแพนดาที่หาได้ยากหรือเปล่า

เพราะยังมีสัตว์อีกมากมายในประเทศนี้ที่ดูเหมือนเราจะไม่เอาใจใส่มันเอาเสียเลย เช่น ลิง ช้าง สุนัข แมว ฯลฯ ที่ร่อนเร่พเนจรอยู่ทั่วเมือง และที่ไม่ลืมคือขวัญใจของคนทำเนียบ-เหี้ย

ที่เห็นๆ ก็คือ ช้างบางตัวซึ่งกำลังน้อยอกน้อยใจที่ผู้คนกำลังห่างเหินจากมันไปหาสัตว์ต่างประเทศอย่างแพนดาเข้าทุกที จนต้องแสดงความน้อยใจให้ปรากฏ โดยวิ่งพลัดจากเจ้าของควาญเข้าไปกระทืบชาวบ้านตายไป 3-4 คนแก้กลุ้ม เพราะเมื่อคนยังรู้จักน้อยใจได้ เหตุไฉนช้างจะไม่รู้สึกน้อยใจบ้าง

วันดีคืนดี แม่สังเกตดูหน้าตาของรัฐมนตรีที่ดูแลทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมซึ่งมีหน้าที่ดูแลแม่น้ำป่าเขาและบรรดาสิงสาราสัตว์แล้วก็รู้สึกทึ่งกับท่าทางภูมิอกภูมิใจเต็มทีกับเรื่องหมีแพนดาที่เดินทางไปเจรจาต้าอวยกับเมืองจีนกลับมา

จนดูเหมือนไม่มีผลงานอื่นใดนอกจากเรื่องหมีแพนดา และยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกคล้ายกับว่า ภาระหน้าที่ของความเป็นรัฐมนตรีกระทรวงแห่งนี้มีเรื่องหมีแพนดาอยู่เรื่องเดียวเท่านั้นเอง ขนาดเรื่องมรดกโลกก็ยังรั้งท้าย ไม่เข้าตา (จนแม่นึกอัศจรรย์ใจเหมือนกันว่า บุคลิก รมว.ท่านนี้ยิ่งอ้วนก็จะยิ่งคล้ายแม่แพนดาเข้าทุกที)

ทำให้แม่แอบขำอยู่ว่า เรื่องของลูกหมีแพนด้าที่มีรายงานอยู่แทบจะทุกชั่วโมงข่าว คงจะทำให้ภาพพจน์ของทั้งรัฐบาลแลดูน่ารักน่าเอ็นดูขึ้นอย่างมากมาย โดยไม่จำเป็นต้องมีผลงานอื่นใด ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ, ชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย, การแก้ไขเรื่องไข้หวัด 2009 (ที่ล้มเหลว) หรือความสงบในบ้านเมือง แม่-ลูกแพนดาคู่นี้ช่วยเอาไว้ได้มากทีเดียว (แม่ไม่เกี่ยงหรอกนะถ้าจะขอพลเมืองกิตติมศักดิ์ให้)

เหลือแต่เรื่องเหี้ยเท่านั้นแหละ ที่แม่ยังเป็นห่วง แค่ผู้บริหารสำนักอนุรักษ์ป่าเกิดหวังดี แนะนำให้เรียกชื่อตัวเหี้ย ให้มีชื่อคล้ายเด็กผู้หญิงสาวๆ จนอาจเลยไปถึงคุณหญิงคุณนายว่า วรนุส ซึ่งเป็นชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ ก็ถูกรุมด่าว่ากล่าวจนไม่เป็นอันกินอันนอน โทษฐานเอาชื่อดีๆของคนไปตั้งเป็นเหี้ย

เพราะเหี้ยและคำว่า เหี้ย นั้นเป็นสัญลักษณ์ของความอัปมงคล สังเกตจากรูปร่างหน้าตาแล้วก็น่าเกลียดน่าชัง รับไม่ได้ จะมาตั้งชื่อให้เพราะอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น ทั้งที่มันก็ไม่เคยทำผิดคิดร้ายใดๆ กับใครเขา นอกจากชอบเดินวางมาดอยู่ในทำเนียบ

ความที่เหี้ยหน้าตาน่าเกลียดและน่าชัง ทำให้ใครเห็นก็อดกลัวไม่ได้ ส่วนที่ไม่กลัวพอเห็นแล้วก็นึกอยากฆ่าฟันให้ตายอย่างทารุณ ให้สมกับความขยะแขยง

ธรรมชาตินี่ก็แปลกนะ เหี้ยไม่ได้มีความดีเลวใดๆ แต่มันคือธรรมชาติ แต่ผู้คนเอาความเป็นธรรมชาติของเหี้ยมาเปรียบกับคนที่ทำสิ่งเลวร้าย แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่า คนหน้าตาเหี้ยจะต้องเป็นคนไม่ดีเสมอไป

แต่คนหน้าตาดี แล้วเหี้ยเงียบๆ นี่ซี กว่าจะรู้ตัวก็กินลึกแล้วนะ แม่ว่า

หน้า 11
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01pol02050752&sectionid=0133&day=2009-07-05





Chat online and in real-time with friends and family! Windows Live Messenger

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รายการบล็อกของฉัน

ผู้ติดตาม

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
ข่าวสาร ข้อมูล ทุกด้านต้องรับฟัง ไม่เชื่อสิ่งที่เห็น ฟังข่าวสารเพียงฝ่ายเดียว ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew ● ปรึกษาปัญหากฏหมาย ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์ ปัญหาติดต่อราชการ ฟรี ● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล, ● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work สำนักพิมพ์ดาวหาง www.sanamluang.bloggang.com สนใจติดต่อสอบถาม workingmailhome@hotmail.com