ข่าวสาร ข้อมูล ทุกด้านต้องรับฟัง ไม่เชื่อสิ่งที่เห็น ฟังข่าวสารเพียงฝ่ายเดียว ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว/ FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew ● ปรึกษาปัญหากฏหมาย ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์ ปัญหาติดต่อราชการ ฟรี ● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล, ● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work สำนักพิมพ์ดาวหาง www.sanamluang.bloggang.com สนใจติดต่อสอบถาม workingmailhome@hotmail.com

"เชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน"

ฉันไม่ชอบกฎหมาย
Blognone
Bookmark and Share

วันพุธที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2552

"แม่สู้ชีวิต" รางวัลสำหรับคนเป็นแม่ บุญคุณที่ทดแทนไม่หมด

วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11477 มติชนรายวัน


"แม่สู้ชีวิต" รางวัลสำหรับคนเป็นแม่ บุญคุณที่ทดแทนไม่หมด


โดย ฐิติรัตน์ เดชพรหม




แม่เพ็ญ ปรีชากุล แม่ของลูกชายพิการ 3 คน ที่ป่วยด้วยโรคโปลิโอ เป็นเวลากว่า 40 ปี
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จทรงเป็นประธานเปิดงาน "มหิดล-วันแม่" ซึ่งมหาวิทยาลัยมหิดล จัดขึ้นเป็นปีที่ 24 แล้ว เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2552

งานวันแม่ของมหาวิทยาลัยมหิดล นอกจากจะเป็นในแง่วิชาการแล้ว ยังมีการมอบรางวัลให้กับ "แม่สู้ชีวิต" "แม่ 100 ปี" และ "แม่ดีเด่น"

เพราะแม่เหล่านี้คือผู้หญิงที่ได้อุทิศชีวิตต่อสู้เพื่อลูกตลอดมา โดยเฉพาะรางวัล "แม่สู้ชีวิต" นั้น แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ แม่สู้ชีวิตประเภทแม่ของลูกปกติ และ แม่สู้ชีวิตประเภทแม่ของลูกพิการ ที่คัดเลือกจากแม่สู้ชีวิต 90 รายทั่วประเทศ

เริ่มต้นกันด้วย "รางวัลแม่สู้ชีวิต ประเภทแม่ของลูกปกติ" ผู้ได้รับรางวัลจากภาคกลาง คือ แม่กรกต ตั้งรัตนาพิบูล กรุงเทพมหานคร เป็นแม่ของ ด.ญ.ภาวิณี ตั้งรัตนาพิบูล ซึ่งแม่กรกตเป็นอัมพฤกษ์มาตั้งแต่ลูกอายุได้ 6 วัน แต่ก็อดทนหาเลี้ยงลูก รวมทั้งดูแลแม่และพ่อที่ป่วยเป็นไตวายด้วย ปัจจุบันแม่กรกตมีอาชีพทำซาลาเปาขายด้วยมือข้างเดียว

เรื่องราวของ "แม่กรกต" เล่าผ่านลูกสาว ด.ญ.ภาวิณี ว่า ปัจจุบันแม่อายุ 48 ปีแล้ว แต่ก่อนที่พ่อของเธอยังมีชีวิตอยู่แม่ต้องดูแลพ่อด้วย ซึ่งพ่อมีปัญหาเรื่องติดเหล้า เงินที่ได้มาจากการขายของในแต่ละวันจึงไม่เคยถึงมือแม่ เวลานี้พ่อเสียชีวิตไปแล้ว รวมทั้งตาและยายด้วย แต่ถึงอย่างนั้นแม่ก็ยังต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินให้เธอได้เรียนหนังสือ และมีชีวิตอยู่อย่างสบาย

"เวลานี้แม่ของหนูทำซาลาเปาขายด้วยมือข้างเดียว วันไหนขายดีก็ได้กินทั้งสองคน แต่ถ้าวันไหนขายไม่ดีขายไม่ได้ แม่ก็จะเสียสละให้หนูกิน ส่วนแม่จะอด เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ตาและยายยังมีชีวิตอยู่แล้ว หนูสงสารแม่มาก แม่ไม่สบายก็ต้องแข็งใจไปขายของเพราะกลัวหนูอด หนูอยากให้แม่หายจากอัมพฤกษ์แต่หมอบอกว่าไม่มีทางหายแล้ว หนูเห็นแม่ร้องไห้บ่อยๆ เพราะเจ็บมือข้างดีที่ยังเหลืออยู่เพราะต้องใช้มือนั้นทำงานตลอด หนูสงสารแม่มาก แม่สู้ชีวิตมากๆ หนูไม่เคยเห็นแม่ท้อหรือเบื่อเลย.." เด็กหญิงเล่าและตบท้ายว่า "ถ้าเป็นหนู หนูไม่รู้ว่าจะทำแบบแม่ได้หรือเปล่า"

แม่สุภาพร เจ็งสุขสวัสดิ์ แม่ของลูกชายที่ป่วยเป็นโรคผิวหนังร้ายแรงและมะเร็งที่ขา


ต่อมาเป็นแม่จากภาคเหนือที่ได้รับรางวัลอีกคน แม่เฮือน หมื่นจำปา จังหวัดลำพูน แต่คนละแวกบ้านแม่เฮือนเรียกเธอว่า "น้ำอ้อย" เป็นฉายาที่ตั้งให้ใหม่ เพราะแม่เฮือนพูดเพราะกับทุกคน และไม่เคยดุด่าว่าลูกเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้จะเหนื่อยหนักหนากับภาระการเลี้ยงลูกถึง 12 คน แต่เพราะ

"หยาดเหงื่อทุกหยาดของแม่ ...คือความสำเร็จของลูกในวันนี้" เธอจึงไม่เคยปริปากกับความทุกข์ยากที่ผ่านมาตลอดชีวิต

ส่วนแม่จากภาคใต้ ผู้ที่ได้รางวัลเป็นแม่อายุ 80 ปีแล้ว บ้านอยู่ จ.นราธิวาส แต่น่าเสียดายที่ไม่อาจเปิดเผยชื่อของเธอได้ เนื่องจากความปลอดภัยในชีวิตประจำวันในขณะนี้ เธอผู้นี้เป็นผู้หญิงที่ยืนหยัดต่อสู้เพื่อลูกๆ ทั้ง 7 คน ที่ต้องดำเนินชีวิตอยู่ท่ามกลางความไม่ปลอดภัยของสถานการณ์ภาคใต้

ลูกสาวคนหนึ่งของเธอเล่าให้ฟังว่า แม่ของเธอต้องออกจากบ้านไปกรีดยางทุกวัน ถ้าวันไหนฝนตกก็ไปกรีดยางไม่ได้ แม่ทำงานหนักเพื่อหาเงินส่งลูกๆ เรียนหนังสือและหาทางให้ลูกๆ อยู่ดีกินดี แม้ว่าหนึ่งในจำนวนลูกทั้งเจ็ดคนจะมีลูกเกเรไม่ได้อย่างใจ แต่แม่ก็ไม่เคยปริปากบ่น ซ้ำยังพูดว่าความเป็นแม่ไม่ว่าลูกเป็นอย่างไรก็ต้องดูแลเขา..

"มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นกับครอบครัวของดิฉัน เป็นเหตุการณ์ร้ายแรงจนทำให้ลูกของแม่อยู่กันไม่ครบ 7 คน เมื่อพวกเราบอกให้แม่ย้ายบ้านออกจากที่เคยอยู่เพื่อความปลอดภัย แต่แม่ไม่ยอม แม่บอกว่าเราต้องช่วยกันปกป้องบ้านของเรา ถ้าเราไม่ทำแล้วเราจะเหลืออะไร ฟังคำแม่พูดแล้วดิฉันถึงกับน้ำตาไหลพูดอะไรไม่ออก แม่ของดิฉันยอมกลับไปอยู่ที่เดิม ยอมแม้กระทั่งจะเสียชีวิตเพราะไม่ต้องการให้ลูกคนหนึ่งคนใดได้รับความเดือดร้อน"

ลูกสาวของคุณแม่จากภาคใต้ผู้นี้ขอให้ไม่เปิดเผยรายละเอียดที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของเธอ เพื่อความปลอดภัยของชีวิตแม่ของเธอ

แม่ไพฑูรย์ สุทธิวุฒิ ต้องเฝ้าเลี้ยงดูลูกสาวคนเล็กที่พิการเพราะความผิดปกติของโครโมโซมตลอดระยะเวลา 22 ปี

รางวัลแม่สู้ชีวิตอีกประเภท คือแม่สู้ชีวิต ประเภทแม่ของลูกพิการ มีผู้ได้รับรางวัล ดังนี้

ภาคกลาง จากกรุงเทพมหานคร มีผู้ได้รับรางวัล 3 คน ได้แก่ แม่สุวรรณี กิจธิคุณ ซึ่งได้ใช้ความอดทน มองการณ์ไกลและคิดเชิงบวกพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อทำให้ลูกสาวซึ่งสูญเสียการได้ยินตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ได้เข้าเรียนร่วมกับเด็กปกติทั่วไป จนวันนี้ทำให้ ดร.ประกาย กิจธิคุณ เรียนจบปริญญาเอก ทำงานช่วยเหลือสังคม

แม่สุวรรณีมีความคิดไม่เหมือนกับพ่อแม่ของ "เด็กพิเศษ" เมื่อ 40 ปีก่อน ที่มักจะสงสารและกลัวลูกลำบากจึงไม่ให้ลูกเรียนแต่ให้อยู่กับบ้านเพราะกลัวอันตรายจากการเดินทาง และมักคิดว่าเด็กจะมีปมด้อยหากเรียนร่วมกับเด็กปกติ

แต่คุณแม่สุวรรณีกลับทำตรงกันข้าม ส่งเสริมให้ลูกไปโรงเรียนและยังอดทนฟื้นฟูให้ลูกที่พิการหูหนวกหัดอ่านริมฝีปาก เพื่อจะได้เข้าใจวิชาที่ครูสอน และยังพาไปหาหมอเพื่อให้ช่วยจัดทำเครื่องช่วยฟังที่เหมาะกับสภาพการได้ยินของลูก และยังไปพบครูผู้สอนเพื่อร่วมมือทางด้านการเรียนจนลูกสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ และเรียนจนจบปริญญาเอก

"แม่มีความอดทนและพยายามฝึกให้อ่านริมฝีปาก คำไหนยากแม้จะต้องพูดเป็นร้อยๆ ครั้ง แม่ก็ไม่ท้อ จนดิฉันอ่านปากได้ถูกต้อง และยังปลูกฝังนิสัยขยันหาความรู้อย่างไม่หยุดนิ่งให้ดิฉัน ความคิดของคนที่เป็นพ่อแม่ที่มีต่อลูกนั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก หากพ่อแม่ยอมรับลูกที่พิการ เชื่อมั่นว่าลูกทำได้และสนับสนุนอย่างเต็มที่ เด็กที่พิการหรือบกพร่องก็สามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้ไม่ยาก..." ดร.ประกาย กิจธิคุณ ลูกสาวของคุณแม่

สุวรรณี กล่าวอย่างภาคภูมิใจ

ต่อมาคือ แม่เสงี่ยม เหลาทอง ฐานะยากจนมีภาระที่ต้องเลี้ยงดูลูกที่พิการทางสมองและสามีที่ป่วยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แต่ยังอดทนทำงานหนัก ค้าขาย รับจ้างนวดแผนโบราณพอมีรายได้เพียงน้อยนิดเลี้ยงครอบครัว

แม่เสงี่ยมบอกว่า ขอบคุณมหาวิทยาลัยมหิดล ที่ทำเรื่องแม่สู้ชีวิต ซึ่งทำให้ตนได้มีโอกาสระบายความทุกข์ของครอบครัวบ้าง

ตามด้วย แม่สุภาพร เจ็งสุขสวัสดิ์ แม่ของลูกชายที่ป่วยเป็นโรคผิวหนังร้ายแรงและมะเร็งที่ขา ทุกครั้งที่ลูกร้องด้วยความเจ็บปวดระหว่างที่แม่อาบน้ำและชำระแผลให้ลูก แม่สุภาพรบอกว่าแม่เจ็บปวดยิ่งกว่า เพราะ 22 ปีที่ทุ่มเทชีวิตทั้งชีวิต ก็เพื่อให้ลูกยังมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข

สำหรับภาคเหนือ มีแม่ที่ได้รับรางวัล 2 คน ได้แก่ แม่จันทร์เพ็ญ ตื้อกาศ จาก จ.ลำพูน เป็นแม่ของลูกชายพิการทางสายตาและสมอง แต่ด้วยความอดทนและความพยายามของเธอทำให้วันนี้ลูกสามารถช่วยตัวเองได้ ช่วยเลี้ยงวัว ทำสวน มีสุขภาพจิตดี เธอจึงมีความสุขตามอัตภาพ

อีกคนคือ แม่ไพฑูรย์ สิทธิวุฒิ จาก จ.น่าน ต้องเฝ้าเลี้ยงดูลูกสาวคนเล็กที่พิการเพราะความผิดปกติทางโครโมโซมตลอดระยะเวลา 22 ปี แต่ไม่เคยท้อจนสามารถฝึกหัดให้ลูกเดินได้ ช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง และยังผลักดันจนลูกได้เรียนร่วมกับเด็กปกติ

จากภาคอีสาน แม่เพ็ญ ปรีชากุล จ.บุรีรัมย์ แม่ของลูกชายพิการ 3 คนที่ป่วยด้วยโรคโปลิโอ เป็นเวลากว่า 40 ปีแล้วที่แม่เพ็ญต้องอุ้มลูกอาบน้ำ ป้อนข้าว ดูแลการขับถ่าย แม้จะอายุกว่า 70 ปีแล้วแต่หน้าที่ของความเป็นแม่ไม่มีวันเกษียณ จนแม้แต่วันนี้เธอยังทำหน้าที่ที่แสนเหนื่อยยากนี้ต่อไป ห่วงแต่ว่าเมื่อสิ้นแม่แล้ว ลูกๆ ของเธอจะอยู่ได้อย่างไร

ภาคใต้ แม่ที่ได้รับรางวัล ได้แก่ แม่อามีเนาะ อาแด จังหวัดปัตตานี แม่ของลูกสาวพิการทางสมอง เพราะแม่มีอาชีพครูผู้ดูแลเด็ก ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ลูกจึงได้รับการดูแลอย่างดี ทุกคนในครอบครัวต่างทุ่มเทให้ลูกสาวพิการ เพื่อมีอนาคตที่สดใสในวันข้างหน้า

บทบาทอันยิ่งใหญ่ของคนเป็นแม่ ที่นอกจากการเป็นผู้ให้กำเนิดแล้ว "แม่" ยังต้องอดทนต่อสู้กับความยากลำบากและอุปสรรคมากมาย เพื่อให้ลูกเติบโตเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ มีความสุขในชีวิต และสำคัญยิ่งคือ เป็นคนดี เป็นหน้าที่ของคนเป็นแม่ที่สู้เพื่อลูก

..ไม่ว่าลูกจะพิการหรืออยู่ในสภาพใด หัวใจของคนเป็นแม่ไม่เคยท้อ


หน้า 20
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01pra01120852&sectionid=0131&day=2009-08-12


--
      Weblink
http://ilaw.or.th
www.patani-conference.net
http://www.thaihof.org
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://elibrary.nfe.go.th
http://www.thaisara.com
http://www.rmutr.ac.th
http://www.bedo.or.th/default.aspx
http://weblogcamp2009.blogspot.com
http://seminarmon.blogspot.com
http://seminartue.blogspot.com
http://seminarwed.blogspot.com
http://seminarthu.blogspot.com
http://seminarfri.blogspot.com
http://seminar1951.blogspot.com
http://seminardd.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รายการบล็อกของฉัน

ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
ข่าวสาร ข้อมูล ทุกด้านต้องรับฟัง ไม่เชื่อสิ่งที่เห็น ฟังข่าวสารเพียงฝ่ายเดียว ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew ● ปรึกษาปัญหากฏหมาย ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์ ปัญหาติดต่อราชการ ฟรี ● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล, ● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work สำนักพิมพ์ดาวหาง www.sanamluang.bloggang.com สนใจติดต่อสอบถาม workingmailhome@hotmail.com