ข่าวสาร ข้อมูล ทุกด้านต้องรับฟัง ไม่เชื่อสิ่งที่เห็น ฟังข่าวสารเพียงฝ่ายเดียว ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว/ FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew ● ปรึกษาปัญหากฏหมาย ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์ ปัญหาติดต่อราชการ ฟรี ● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล, ● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work สำนักพิมพ์ดาวหาง www.sanamluang.bloggang.com สนใจติดต่อสอบถาม workingmailhome@hotmail.com
วันพุธที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2552
วันที่ 30 เมษายน 2552 เวลา 10.00-12.00 น. ณ. ห้องประชุมอำนวยการ กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.02) กองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
หมายเหตุ:จัดรถรับส่งสื่อมวลชน ณ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ถนนพระราม 6 เวลา 09.00 น. ติดต่อ คุณนัทธ์หทัย ทองนะ 02-564-6900*2338
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-564-6900 ต่อ 2338 นัทธ์หทัย ทองนะ เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ NECTEC
Windows Live™ SkyDrive™: Get 25 GB of free online storage. Check it out.
QSNCC E-News :: 28 April, 2009
From: QSNCC <e-news@qsncc.com>
Date: เม.ย. 29, 2009 1:14 หลังเที่ยง
Subject: QSNCC E-News :: 28 April, 2009
![]() | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
Copyright © Queen Sirikit National Convention Center managed by N.C.C. Management & Development Co.,Ltd. All rights reserved. 60 New Rachadapisek Road, Klongtoey, Bangkok 10110, Thailand Tel : (662) 229-3000 Fax: (662) 229-3001 Email : info@qsncc.co.th | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2552
ภัควดี: การประนีประนอมระหว่างสี: ตัวอย่างแนวทาง “อารยะ” จากโบลิเวีย
ภัควดี: การประนีประนอมระหว่างสี: ตัวอย่างแนวทาง "อารยะ" จากโบลิเวีย | ||
ภัควดี รายงาน
หลังจากทีมฟุตบอลโบลิเวียเอาชนะอาร์เจนตินาภายใต้การคุมทีมของดีเอโก มาราโดนาไปอย่างถล่มทลายถึง 6 ประตูต่อ 1 มาราโดนาบอกผู้สื่อข่าวว่า "ทุกประตูที่โบลิเวียยิงเหมือนมีดทิ่มแทงหัวใจผม" แทบไม่มีใครเคยคิดว่า โบลิเวียจะล้มยักษ์อย่างอาร์เจนตินาลงได้ เท่า ๆ กับที่ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน ไม่เคยมีใครคิดว่า เกษตรกรชาวพื้นเมืองอย่างเอโว โมราเลส จะก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีของโบลิเวีย ไม่นานมานี้เอง นอม ชอมสกีเพิ่งยกย่องโบลิเวียว่า "น่าจะเป็นประเทศที่มีความเป็นประชาธิปไตยมากที่สุดในโลก" เพราะ "องค์กรรากหญ้าขนาดใหญ่ของประชากรที่เคยถูกกดขี่มากที่สุดในซีกโลกนี้ [ได้] ก้าวเข้ามามีบทบาทบนเวทีการเมือง [และ] สามารถเลือกประธานาธิบดีที่เป็นคนของพวกเขาเองอย่างแท้จริง" ชอมสกียังบอกด้วยว่า เอโว โมราเลสคือสัญลักษณ์ที่เป็นตัวอย่างให้เห็นว่า "ระบอบประชาธิปไตยควรเป็นอย่างไร" รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของโบลิเวียเพิ่งผ่านการรับรองประชามติมาด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นถึง 61% และถ้าเรายังไม่ลืม รัฐธรรมนูญฉบับนี้สร้างความแตกแยกให้สังคมโบลิเวียจนเกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายแบ่งสี ถึงขั้นที่ชนชั้นสูงขู่จะ "แบ่งแยกดินแดน" ออกไป (โปรดดูบทความ "ภัควดี: รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน: โบลิเวียได้ไปแล้ว ชาวสยามหน้าหมองโปรดรอไปก่อน", 31 ม.ค. 52) ความตึงเครียดในประเทศคุกรุ่นขึ้นอีกครั้ง เมื่อฝ่ายค้านตั้งป้อมสกัดกฎหมายเลือกตั้งชั่วคราว ซึ่งเป็นกฎหมายลูกที่จะมอบอำนาจให้ประธานาธิบดีและสมัชชานิติบัญญัติแห่งชาติจัดการเลือกตั้งในวันที่ 6 ธันวาคมปีนี้ รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่า กฎหมายลูกฉบับนี้ต้องผ่านสภาออกมาภายใน 60 วัน หากผ่านกฎหมายออกมาไม่ได้ ก็จะไม่มีการเลือกตั้งและความพยายามทั้งหมดของโมราเลสย่อมสูญเปล่า ในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพรรค Movement Toward Socialism (MAS) ของโมราเลสครองเสียงข้างมากนั้น กฎหมายเลือกตั้งฉบับนี้ผ่านออกมาได้อย่างรวดเร็ว แต่ในวุฒิสภา ซึ่งฝ่ายค้านครองเสียงข้างมากมากกว่านิดหน่อย พวกเขาทำทุกวิถีทางเพื่อล้มร่างกฎหมายฉบับนี้ แม้กระทั่งแกล้งหนีกลับบ้านเพื่อให้สภาไม่ครบองค์ประชุม จนดูเหมือนฝ่ายค้านที่ล้วนเป็นชนชั้นนำผิวขาวนักธุรกิจและเจ้าที่ดิน เริ่มถือไพ่เหนือกว่าประธานาธิบดีโมราเลส นี่คือสถานการณ์ที่จะพิสูจน์ว่า คำยกย่องของชอมสกีเป็นความจริงหรือไม่? โมราเลสและพรรค MAS จะแก้ไขปัญหาอย่างไร? ประธานาธิบดีอดอาหารประท้วง ในวันที่ 9 เมษายน 2009 เมื่อวุฒิสมาชิกฝ่ายค้านป่วนจนสภาล่ม ประธานาธิบดีโมราเลสก็เริ่มต้นประท้วงด้วยการอดอาหารเป็นเวลา 5 วัน นอกจากประธานาธิบดีแล้ว ยังมีชาวโบลิเวียอีกเกือบ 3,000 คน ทั้งในและนอกประเทศ ร่วมอดอาหารประท้วงด้วย ในจำนวนนี้มีทั้งผู้นำแรงงาน ตัวแทนจากขบวนการสังคม นักเคลื่อนไหวทางสังคม รวมทั้งชาวโบลิเวียที่อาศัยอยู่ในสเปนและอาร์เจนตินา ระหว่างการอดอาหารประท้วง ประธานาธิบดีโมราเลสนอนบนเสื่อปูพื้นในทำเนียบประธานาธิบดีและเคี้ยวใบโคคาเพื่อต่อสู้กับความหิว (โปรดดูรูป) เขาบอกว่านี่เป็นการอดอาหารประท้วงครั้งที่ 18 ในชีวิตการต่อสู้ทางการเมืองก่อนก้าวขึ้นเป็นผู้นำประเทศ ก่อนหน้านี้ โมราเลสเป็นเกษตรกรปลูกใบโคคา เป็นนักจัดตั้งสหภาพและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขาเล่าว่า เขาเคยอดอาหารประท้วงนานที่สุดถึง 18 วันตอนที่ติดคุกการเมืองในโบลิเวีย นอกจากการอดอาหารประท้วงของคนจำนวนมากแล้ว ยังมีเกษตรกรและชาวพื้นเมืองอีกหลายพันคนใช้วิธีเดินขบวนประท้วงตามท้องถนนและล้อมรอบสมัชชานิติบัญญัติแห่งชาติ ในขณะที่รองประธานาธิบดีอัลวาโร การ์เซีย ลิเนรา ต่อสู้อยู่ในสภาเพื่อให้กระบวนการออกกฎหมายเดินหน้า ในที่สุด วุฒิสมาชิกฝ่ายค้านก็ยอมกลับเข้าสภา มีการประนีประนอมระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้าน และกฎหมายเลือกตั้งก็คลอดออกมาจนได้เมื่อวันที่ 14 เมษายน แน่นอน นี่ถือเป็นชัยชนะ "อย่างสันติวิธี" อีกครั้งของประชาชนรากหญ้าชาวโบลิเวีย แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการประนีประนอมกับฝ่ายค้าน "สีชมพู" ต่างฝ่ายต่างได้อะไรบางอย่างและต่างสูญเสียอะไรบางอย่าง เพราะดังที่รองผู้บัญชาการมาร์กอสแห่งขบวนการซาปาติสตาเคยให้สัมภาษณ์กับการ์เบรียล การ์เซีย มาร์เกซว่า: "หากจะให้การเจรจาต่อรองบรรลุผลสำเร็จ ทั้งสองฝ่ายต้องเริ่มต้นจากสมมติฐานว่า ไม่มีทางเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ เพราะฉะนั้นก็ต้องจับมือกันหาทางออกสักทางที่หมายถึงชัยชนะสำหรับทั้งสองฝ่าย หรือในกรณีที่แย่ที่สุดคือพ่ายแพ้ทั้งสองฝ่าย แต่อย่างน้อย นั่นก็ทำให้การปะทะกันด้วยกำลังสิ้นสุดลง" นี่ต่างหากคือความหมายที่แท้จริงของ "สันติวิธี" และ "อหิงสา" ซึ่งสรุปสั้น ๆ ได้ว่า เราจะไม่เล่นเกม zero-sum game (เกมที่ฝ่ายชนะกินรวบ)! สิ่งที่ได้และสูญเสีย สิ่งที่รัฐบาลโมราเลสจำต้องยอมประนีประนอมก็คือ วิธีการลงทะเบียนผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ฝ่ายค้านยืนกรานให้รัฐบาลใช้ "เครื่องตรวจชีวมิติ" (biometric markers—หมายถึงเครื่องตรวจดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือ หรืออะไรก็ตามแต่ทางกายภาพ เพื่อระบุว่าคน ๆ นั้นคือคนในบัตรประชาชนจริง ๆ) เพื่อไม่ให้มีการโกงการเลือกตั้ง รัฐบาลโต้แย้งมาตลอดว่า การซื้อเครื่องที่ว่านี้ต้องใช้เงินถึง 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อีกทั้งอาจยังมีเวลาไม่พอในการติดตั้งและนำมาใช้ แต่สุดท้าย รัฐบาลก็ประนีประนอมด้วยการยอมทำการสำรวจสำมะโนประชากรใหม่ และเพื่อหาเงินมาซื้อเจ้าเครื่องนี้ โมราเลสจึงยกเลิกแผนการซื้อเครื่องบินประจำตำแหน่งประธานาธิบดีลำใหม่ และเดินทางไปนอกประเทศด้วยเครื่องบินอายุ 30 ปีเครื่องเดิม ส่วนสิ่งที่รัฐบาลยืนกรานและฝ่ายค้านต้องยอมโอนอ่อนตามก็คือ ประธานกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติ นายฆอร์เก ลูอิซ เอ็กเซนี ไม่ต้องลาออกตามเสียงเรียกร้องของฝ่ายค้าน เขาจะยังทำหน้าที่ดูแลการเลือกตั้งและรับผิดชอบโครงการลงทะเบียนผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงต่อไป ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ชุมชนชาวพื้นเมืองจะได้รับการจัดสรรเก้าอี้ในสภาคองเกรสจำนวนหนึ่ง (โดยผ่านการเลือกตั้งจากในชุมชนเอง) ซึ่งไม่ได้ระบุจำนวนที่แน่ชัดไว้ รัฐบาลเสนอให้มี 14 ที่นั่ง ส่วนฝ่ายค้านบอกว่าให้แค่ 3 ที่นั่ง ผลจากการประนีประนอมทำให้ชุมชนชาวพื้นเมืองจะมีตัวแทนในสภาได้ 7 ที่นั่ง รัฐบาลวางแผนว่าจะอนุญาตให้ชาวโบลิเวียที่อาศัยในต่างประเทศมีสิทธิลงคะแนนเสียง การประนีประนอมทำให้ชาวโบลิเวียในต่างประเทศจะมีสิทธิเพียงแค่ 240,000 คน ซึ่งเป็นเพียง 6% จากจำนวนทั้งหมดที่รัฐบาลตั้งไว้ นอกจากนี้ ก็มีการประนีประนอมเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งเจ้าหน้าที่การปกครองท้องถิ่น ดอกไม้และก้อนอิฐ แน่นอน ในการประนีประนอมครั้งนี้ ย่อมมีทั้งคนพอใจและไม่พอใจ ประธานสหพันธ์ชาวพื้นเมืองภาคตะวันออกของโบลิเวีย นายอะโดลโฟ ชาเวซ วิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนว่า นี่เป็น "การทรยศต่อขบวนการชาวพื้นเมืองในประเทศ" โดยมุ่งเป้าไปที่ประเด็นการจัดสรรที่นั่งให้ชาวพื้นเมืองในสภาคองเกรส ในขณะที่อาจารย์ด้านรัฐศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญละตินอเมริกาแห่งมหาวิทยาลัยเซนต์แมรีในแมรีแลนด์ นาย บนเส้นทางของการเมืองที่ตั้งมั่นอยู่บนกระบวนการประชาธิปไตยอย่างสันติวิธี ความขัดแย้งควรบรรลุด้วยโต๊ะเจรจา แต่ดังที่เอลซุปบอกไว้ (ขออ้างอีกที) ว่า "สิ่งที่โต๊ะ [เจรจา] ตัวนั้นต้องบรรลุให้ได้ก็คือ มันต้องทำให้เราลุกขึ้นมาอย่างมีศักดิ์ศรี" เพียงแต่ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา ก็อย่างที่เอลซุปบอก (ขออ้างอีกครั้ง) นั่นคือ: "ไม่เพียงแต่เราต้องสร้างโต๊ะขึ้นมา แต่เรายังต้องสร้างคู่สนทนาขึ้นมาด้วย"! เรียบเรียงจาก: Benjamin Dangl, "Latin America Changes: Hunger Strikes in Jonathan J. Levin, "Morales Wins Bolivia Election Law With Hunger Strike," http://www.bloomberg.com/apps/news?pid=20601087&sid=a.yMGIqHCnwY&refer=home; April 14, 2009. W. T. Whitney Jr., "What Bolivian democracy looks like," People's Weekly World Newspaper, http://www.pww.org/article/articleview/15335/; 04/23/09. | ||
|
Rediscover Hotmail®: Get quick friend updates right in your inbox. Check it out.
วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2552
นิทรรศการ "ทัศนศิลป์สร้างสรรค์"
นิทรรศการศิลปะ "ทัศนศิลป์สร้างสรรค์" เป็นนิทรรศการแสดงผลงานศิลปะของนักศึกษาปริญญาโท จากมหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ร่วมด้วยศิลปินรับเชิญ อาทิ ศ.ประหยัด พงษ์ดำ ศ.ปรีชา เถาทอง ศ.วิโชค มุกดามณี ประเทือง เอมเจริญ เดชา วราชุน ฯลฯ โดยแนวคิดของการทำงานอยู่บนพื้นฐานของการดำเนินชีวิตอันประกอบไปด้วยหลักการคิด วิธีการ ประสบการณ์ที่หลากหลาย นำมาประยุกต์ใส่ความหมาย บนเนื้องาน ที่เน้นความแปลกใหม่ ความสวยงาม และเป็นประโยชน์ทางด้านสุนทรียภาพแก่ผู้เข้าชม นิทรรศการศิลปะ “ทัศนศิลป์สร้างสรรค์” เปิดให้ผู้สนใจเข้าชมตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายน 2552 - วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม 2552 ทุกวันยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ** พิธีเปิด วันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายน 2552 เวลา 17.30 น. โดย ศ.ประหยัด พงษ์ดำ ให้เกียรติเป็นประธาน ** ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]()
| ![]() | ||
![]() | ![]() | ![]() |
ซอฟต์แวร์ทดสอบคลื่นมือถือ เวอร์ชั่นใหม่ ติดแท็กซี่
ซอฟต์แวร์ทดสอบคลื่นมือถือ เวอร์ชั่นใหม่ ติดแท็กซี่
การแข่งขันของผู้ให้บริการเครือข่ายดีแทค เอไอเอส หรือทรู ก็คือความสามารถขจัดปัญหา พื้นที่อับสัญญาณ การโทร.ไม่ติด หรือโทร.แล้วไม่มีคลื่น หรือคลื่นถูกรบกวนได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้การ แข่งขันในเรื่องของธุรกิจ ผู้ให้บริการมือถือได้เปรียบมากยิ่งขึ้น
ผู้ให้บริการค่ายต่างๆ จึงต้องออกตรวจตรา หาฟื้นที่อับสัญญาณและแก้ไขโดยเร็ว จากการขับรถตระเวน มีวิศวกรคอยตระเวนตรวจสอบไปยังพื้นที่ต่างๆ แล้วกลับไปแก้ไข ซึ่งใช้เวลาในการแก้ไขพอสมควร จากนั้นการพัฒนามาขยับมาสู่การมองหาซอฟต์แวร์ที่จะตรวจสอบตามจุดต่างๆ โดยไม่ต้องส่งคนไป เพียงแค่ซอฟต์แวร์ก็สามารถประมวลผลและส่งสัญญาณกลับมายังผู้ให้บริการเพื่อตรวจสอบและแก้ไขได้ทันท่วงที ซอฟต์แวร์ตัวนี้ที่ผ่านมามีทั้งนำเข้าจากต่างประเทศและมีทั้งที่คนไทยพัฒนาเอง ถ้านำเข้าจากต่างประเทศ มีต้นทุนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ในขณะที่ใช้ซอฟต์แวร์ของคนไทย มีต้นทุนเพียงแค่ 1 ล้านบาทเศษๆ เท่านั้น
บริษัท ฟรีวิลล์ เอฟเอกซ์ จำกัด เป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่จากซอฟต์แวร์พาร์ค ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี (TMC) ที่ได้พัฒนา "ซอฟต์แวร์ทดสอบคุณภาพเครือข่ายมือถือ" ภายใต้ชื่อ AZENQOS ซึ่งมีราคาประหยัด แถมยังเป็นซอฟต์แวร์ที่ทำงานได้ง่าย โดยสามารถตรวจสอบสัญญาณได้จากมือถือทั่วไป
ล่าสุดบริษัทได้พัฒนา AZENQOS Voyager คือ กล่องฮาร์ดแวร์ขนาดเล็กที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับอุปกรณ์ราคาแพงจากต่างประเทศ สามารถนำไปติดตั้งเพื่อทดสอบสัญญาณเครือข่ายบนยานพาหนะต่างๆ เช่น แท็กซี่หรือรถโดยสารประจำทาง เพื่อขยายการตรวจสอบให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
นายนพพร ด่านชัยนาม ผู้จัดการฝ่ายเทคนิค กล่าวว่า อุปกรณ์ดังกล่าวมีจุดเด่นในการทำงานคล้ายคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา
และมีหน่วยความจำอยู่ในเครื่องจึงทำงานแบบอัตโนมัติ โดยผู้ให้บริการเครือข่ายสามารถควบคุมการทดสอบสัญญาณหรือบริการต่างๆ จากออฟฟิศมายังกล่องฮาร์ดแวร์ดังกล่าวเพื่อเก็บข้อมูล และเมื่อเก็บข้อมูลตามคำสั่งเรียบร้อยแล้ว กล่องฮาร์ดแวร์นี้จะสามารถส่งข้อมูลออนไลน์กลับมายังออฟฟิศและรายงานผลการทดสอบได้ทันที และอุปกรณ์ดังกล่าวสามารถนั่งสั่งงานและควบคุมการทำงานจากออฟฟิศได้เลย"
ที่ผ่านมาบริษัทสามารถพัฒนาอุปกรณ์ทดสอบสัญญาณเครือข่ายภายใต้ชื่อ AZENQOS ออกสู่ตลาดได้เป็นผลสำเร็จอีก 2 ผลิตภัณฑ์คือ
AZENQOS Experience ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ชนิดที่สามารถนำไปติดตั้งในมือถือทั่วๆ ไป และใช้ทดสอบการให้บริการต่างๆ ของมือถือ จุดเด่นคือ สามารถพกพาไปใช้งานได้ง่าย ครอบคลุมทุกพื้นที่
AZENQOS Subscriber ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ทำงานคล้ายมอนิเตอร์ เช่น หากลูกค้าโทร.มาแจ้งว่าการใช้งานบริการต่างๆ ใน โทรศัพท์มือถือมีปัญหา ผู้ให้บริการเครือข่ายจะสามารถนำซอฟต์แวร์ดังกล่าวไปติดตั้งบนมือถือของลูกค้า เพื่อคอยตรวจสอบและรายงานผลการใช้งาน โดยอุปกรณ์ดังกล่าวจะทำงานโดยไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้มือถือของลูกค้า ทำให้ลูกค้าสามารถใช้มือถือ ที่มีซอฟต์แวร์ดังกล่าวได้ตามปกติ โดยปีที่ผ่านมา จากผลิตภัณฑ์ดังกล่าว บริษัทมีรายได้ ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท และเชื่อว่าในปีนี้ รายได้ไม่น่าจะต่ำกว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน
หน้า 48
http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02biz04230452&day=2009-04-23§ionid=0214
Windows Live™ SkyDrive™: Get 25 GB of free online storage. Check it out.
รังสรรค์ ราศีดิบ นักดนตรีร่วมสมัย หัวใจสะล้อ ซอ ซึง
รังสรรค์ ราศีดิบ นักดนตรีร่วมสมัย หัวใจสะล้อ ซอ ซึง
โดย ชมพูนุท นำภา
![]() |
แต่เพราะ "งานเพลง" แนวแปลกๆ จะว่าล้านนาก็ไม่ใช่ จะโมเดิร์นก็ไม่เชิง ฟังแล้วสำเนียงคุ้นหู แต่ก็ดูล้ำกว่านั้น บทเพลงเสียงดนตรีที่ไม่เหมือนใครนี่เอง กลายเป็นแรงดึงดูดอยากให้ทำความรู้จัก และค้นหา
ซึ่งในเวลาต่อมาระยะทางเกือบแปดร้อยกิโลทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมให้เดินทางไปสัมผัสชีวิตของเขาคนนี้
...บ่ายวันนั้น...ที่บ้านหลังน้อยละแวกซอยวัดอุโมงค์ จังหวัดเชียงใหม่ มอเตอร์ไซค์คันเก่าวิ่งช้าๆ เข้ามาจอดที่หน้าบ้าน คนขี่ถอดหมวกกันน็อคออกแล้วหันมาพยักหน้ายิ้มทักทาย
ดูจากบุคลิกที่พบเห็นในยามนั้น ถ้าไม่เคยรู้จักผลงานเพลงของเขามาก่อน เชื่อแน่ว่าใครก็นึกไม่ถึงว่าชายวัย 40 ต้นๆ ผู้นี้ ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ขะมุกขะมอม จะเป็นนักดนตรีมือรางวัล ทั้งยังพ่วงตำแหน่งโปรดิวเซอร์ให้กับศิลปินอีกหลายต่อหลายคน ตั้งแต่ศิลปินเมืองไปจนถึงวงร็อคอินดี้หน้าใหม่
แล้วเขาคงเห็นอะไรบางอย่างจากสีหน้า จึงเอื้อนเอ่ยสีหน้ายิ้มๆ...
"เราอย่าตัดสินด้วยการมองแป๊บเดียวสิ เห็นนี่ไหม (ชี้ไปที่ห้องหลังเล็กๆ ข้างบ้าน) โกโรโกโสอย่างนี้แต่เป็นห้องอัดเสียงนะ..."
แล้วต่อด้วย "เหมือนงานของเราไปตัดสินจากปกซีดี หรือแค่ชื่อเพลงไม่ได้หรอก หรือเห็นหน้าแก่ๆ อย่างนี้ (ชี้ตัวเอง) โอ๊ย...ย...มันขนผักแน่นอน" กล่าวปนหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
"รังสรรค์ ราศีดิบ" หรือชื่อจริงตามบัตรประชาชน "รังสรรค์ ไชยา" มีชื่อเล่นเรียกขาน "โจ้"
เขาคนนี้คลุกคลีในแวดวงดนตรีกลางคืนมานานนม จึงรู้จักกันดีในเมืองเชียงใหม่ แต่สำหรับคนทั่วไปเริ่มรู้จักเขาเมื่ออัลบั้มชุดแรก "การเดินทางของตะกร้า" ได้รับรางวัลสีสันอวอร์ด เมื่อปี 2544
อัลบั้มแรกนั้นสร้างความแปลกใหม่ให้ผู้ฟังอย่างชัดเจน โจ้บอกว่า อัลบั้มแรกเหมือนเป็นงานทดลองที่ได้เพื่อนๆ ฝีมือดีเข้ามาช่วยกันจนเสร็จเป็นรูปเป็นร่าง มีการทดลองเอาเครื่องดนตรีพื้นเมืองของล้านนามาผสมร่วมกับเสียงเครื่องดนตรีสากล สอดแทรกด้วยเสียงอิเล็กทรอนิกส์อีกนิด ให้คนหลายชาติหลายภาษามาร่วมขับร้อง ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส ภาษาปกาเกอญอ ภาษาคำเมือง ผสมผสานกันจนลงตัวและน่าฟัง บางเพลงก็แฝงด้วยปรัชญาให้คนฟังได้ขบคิดจินตนาการกันต่อ
"รังสรรค์" เป็นคนเชียงรายโดยกำเนิด จบปริญญาตรี คณะพืชสวนประดับ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งไม่เกี่ยวกับดนตรีแม้แต่น้อย แต่ด้วยใจรักในช่วงวัยรุ่นเขาจึงมุมานะหัดกีตาร์ด้วยตัวเอง และได้รับคัดเลือกให้อยู่วง "เดอะ คาวบอย" วงดนตรีประจำมหาวิทยาลัยแม่โจ้
หลังเรียนจบรังสรรค์ตระเวนเล่นดนตรีกลางคืนหาประสบการณ์ตามร้านอาหารในเชียงใหม่ จนบัดนี้หลายร้านปิดตัวไปแล้ว แต่หลายร้านที่เขาเล่นดนตรีร้องเพลงก็ยังอยู่ อาทิ ร้านคีย์เฮ้าส์ ร้านรีเวอร์ไซต์ ร้านบลาสเซอรี่ มาเบิ้ล ร้านมะปราง ร้านสุดสะแนน เป็นต้น
หากจะไถ่ถามเขาเกี่ยวกับเรื่องพืชสวนคงยากหน่อย เพราะตั้งแต่เรียนจบ เขาบอกว่าเคยรับจ้างจัดสวนแค่สองปีเท่านั้น ที่เหลือคลุกเคล้าอยู่กับเสียง
![]() |
กีตาร์มาตลอด
โจ้-รังสรรค์ มีอัลบั้มของตัวเอง 2 ชุด คือ "การเดินทางของตะกร้า" และ "วาดเวลา" ระหว่างนั้นทำหน้าที่โปรดิวซ์ให้กับศิลปินอีกหลากหลาย
ส่วนงานตัวเอง ขณะนี้ร่วมกับเพื่อนนักดนตรีประกอบด้วย "ทศ พนมขวัญ" (กลอง) "แอ๊ด-ภานุทัต อภิชนาธง" (เครื่องพื้นเมือง) "บอย เหนือเมฆ" (เปียโน) "ธวัชชัย แย้มสำรวล" (เบส) ร่วมมือทำดนตรีอีกครั้ง ในนาม "ราศีดิบ โปรเจ็กต์" เป็นดนตรีบรรเลงโดยมีเครื่องดนตรีหลัก 3 ชิ้น ผสมผสานกับเครื่องดนตรีล้านนา
นอกจากงานดนตรีแล้ว หน้าที่หลักอีกอย่างของรังสรรค์ คือช่วยภรรยาขายข้าวแกงชื่อ "ครัวแม่ชะเอม" ขายอาหารปักษ์ใต้ เพราะภรรยาเป็นคนใต้ หาเลี้ยงครอบครัวซึ่งมีสมาชิกอีกสองชีวิต คือ ลูกสาวชื่อ "ชะเอม" วัย 3 ขวบ และลูกชายชื่อ "ข้าวนึ่ง" วัย 7 เดือน
ชีวิตธรรมดาสามัญของนักดนตรีคนเมืองเชียงใหม่เป็นเช่นไร ได้แรงขับในการสร้างสรรค์อย่างไร
"หาคำตอบได้จากปากของหนุ่มอารมณ์ดีคนนี้เอาเอง"
เรียนรู้เรื่องของดนตรีได้อย่างไร?
ใช้วิธีถามเพื่อนบ้าง พี่บ้าง แล้วลองผิดลองถูกเอาเอง แต่ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะว่าฟังเพลงและอ่านหนังสือเยอะมาก
แนวไหน?
ชอบฟังบลูส์ แล้วก็ฝึกกีตาร์ จริงจังมากนะ ซ้อมวันละหลายๆ ชั่วโมง อย่างแกะเพลงก็พยายามศึกษาวิธีคิดของเขาว่าเขาทำยังไง ไม่ใช่ว่าแกะได้เล่นเสร็จก็จบ แต่จะพยายามหา เช่น ทำไมเขาใช้ทางคอร์ดแบบนี้ พยายามตีความวิธีคิดของเขา แบบนี้มันสนุกกว่า เพราะถ้าแกะเพลงอย่างเดียวมันจะเหมือนเครื่องถ่ายเอกสาร สมัยนี้สบายแล้วมียูทูบให้ดู
ใช้เวลานานไหมที่เล่นตามร้านอาหารแล้วมาเป็นอย่างทุกวันนี้
เริ่มจากเล่นตามร้านอาหารได้สัก 10 ปี ก็เริ่มเบื่อเลยไปทำร้านคอมพิวเตอร์แป๊บนึง ก็เลิกแล้วมาทำห้องอัด พอไม่เวิร์กก็ไปจัดสวนกับเพื่อน กลับไปกลับมาอย่างนี้ ทำอะไรก็ไม่ค่อยดี สะเปะสะปะ ก็เลยทำอัลบั้มชุดแรกโดยไปขอใช้ห้องเพื่อนกิน-นอนอยู่ที่นั่น จนอัลบั้มสำเร็จซึ่งถือว่าโชคดีมีเพื่อนฝูงฝีมือดีมาช่วยเยอะ เมื่อเห็นว่าทำแบบนี้เราสนุกกว่าก็เลยรักที่จะอยู่กับมัน จนถึงทุกวันนี้
ยุคนั้นถือว่าเป็นใต้ดินหรือเปล่า?
ไม่รู้ แต่ว่าเราก็เป็นไปตามธรรมชาติ อย่างผมจะไปขายหน้าตาเหรอ (หัวเราะ) เดี๋ยวเฮียเขาเจ๊ง
เออ...แต่ว่าฝรั่งแก่ๆ เขาก็ยังทำออกมาสนุกสนานเฮฮากัน คุณลุงๆ ทั้งหลายก็ยังอยู่ดีอยู่ แต่ผมไม่ได้คิดไปรองรับตลาดตรงนั้น แค่อยากเห็นว่าถ้าเอาพิณเปี๊ยะมาใส่ในเพลงเรกเก้มันจะเป็นยังไง มันเหมือนงานทดลอง เวลาทำเสร็จก็ไรต์ขายเองพักหนึ่ง
แต่ละเพลงจะคิดอยู่ในหัวนานแล้ว บางทีนั่งรถอยู่ก็คิด อย่างเพลงแก้วมาลูนก็คิดว่าถ้าเป็นแบบเพลงบ้านนอก แต่มีอารมณ์สะวิงเข้ามาใส่ให้มันดูหรูหราหน่อย กระฉับเฉงหน่อย มีซึงมาแจม ก็คงจะเวิร์ก เอ๊...แล้วจะเอาซึงมาใส่ตรงไหน ก็จะคิดแล้วเก็บใส่ลิ้นชักไว้เวลาจะทำงานก็เอามาใช้
ผลงานชุดแรกได้รางวัล
ก็ดีนะ เป็นที่รู้จักขึ้นเยอะแต่ผมอ่อนเรื่องการตลาด การขาย ส่วนมากจะใช้วิธีฝากขาย ที่กรุงเทพฯ อย่าให้พูด บางร้านก็ไม่จ่ายเงินเราเลย แต่บางร้านก็ดี คนซื้อก็คงอยากจะฟังแปลกๆ ใหม่ๆ บ้าง คือผมพยายามทำเพลงให้น่าสนใจ ต้องมีสารในเพลงบ้าง
ชีวิตคนเมืองเชียงใหม่เนิบๆ อะไรเป็นสิ่งกระตุ้นให้ทำงานเพลง
อืม...มันหลายอย่างมาก มันเหมือนกับเราต้องเดินทาง บางทีสิ่งที่เราเจอระหว่างทางแล้วเรารู้ว่าเรื่องนี้มันกระทบกับเรา เรื่องนี้เรารู้สึก บางทีอ่านบ้าง ฟังบ้าง คนเราแต่ละคนมันจะมีเรื่องราวที่ไม่เหมือนกัน เป็นการบันทึกเรื่องราวโดยสายตาของแต่ละคน เหมือนห้องอัดนี้ถ้าไม่บอกก็ไม่มีใครรู้ว่าเป็นห้องอัด คือ เราใส่ใจกับสารข้างในก่อนแล้วค่อยทำข้างนอก
ปกติชอบเดินทาง
การเดินทางของผมคือการออกจากตัวเอง ไม่จำเป็นที่จะต้องเดินทางข้ามทวีป แค่เราออกไปสัมผัสผู้คน เรื่องราว แล้วก็อ่านหนังสือ ดูข่าวสาร แล้วก็มาย่อยว่าอันไหนเรารู้สึก อันไหนจริง ไม่จริง สัมผัสมัน รู้สึกกับมัน อันไหนดีก็ให้กระตุ้นเรา อันไหนไม่ดีก็ปล่อยผ่านไปเสีย ต้องเรียนรู้ ศึกษา นี่คือการเดินทางของผม เดินทางไปเรื่อยๆ
คือถ้าอยู่กับตัวเองนานๆ จะรู้สึกว่าแก้วมันเต็ม เราก็ต้องหาอะไรมาเติม อย่าทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว บางทีแค่เพลงเพลงหนึ่ง เสียงเสียงหนึ่ง หรืออะไรสักอย่างที่ทำให้เรารู้สึก หรือเรื่องที่ผู้คนคิด มันจะเข้ามาหาเราเอง อยู่ที่เราจะมองยังไง ตีความยังไง
โปรดิวซ์งานศิลปินคนอื่นด้วย
ครับ เช่น ทำเพลงครบ 10 ปีให้สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) หรืออัลบั้มของ ชิ-สุวิชาน (ศิลปินชาวปกาเกอญอ) ซึ่งมี 12 เพลง ความยากของอัลบั้มนี้คือ ภาษา เครื่องดนตรี เรื่องราวของชาวปกาเกอญอ สามอย่างนี้เราอย่าตีความมั่ว เพราะมันจะกลายเป็นจับเขามายัดใส่ในบล็อคความคิดเรา ซึ่งอาจจะไม่ถูกต้อง
ยกตัวอย่างเพลง เทาะแมป่า ผู้ที่เป็นบรรพบุรุษของปกาเกอญอ เราก็จะคิดถึงละครเวลาเปิดฉาก แต่เราต้องหาวิธีเปิดฉากแบบเอาเครื่องดนตรีมาใส่แทน ประมาณว่าส่องแสงให้เขา เขาโผล่มาจากที่มืด ผมเลือกเสียงคีย์บอร์ดเป็นแบ๊คกราวด์ แล้วให้กีตาร์ส่งให้ระยิบระยับขึ้นมาหน่อย แล้วก็มีเสียงอะไรบางอย่างให้รู้ว่าคนคนนี้มาแล้ว เช่น ใช้เคาะฆ้องกบ มันจะให้ความรู้สึกเหมือนกับย่องมาแล้ว
หรือศิลปินรุ่นใหม่อย่างจุ๋ย จุ๋ย ก็ช่วยทำ เขาเล่นได้ทุกอย่าง อืมม...ประหลาด ป๊อป (หัวเราะ)
ล่าสุด โปรดิวซ์ ให้วงร็อคอินดี้ "wild seed" เพลงสัตว์เลี้ยงของแวมไพร์
งานล่าสุด
ตอนนี้ทำวงเล่นกับเพื่อน ใช้ชื่อว่า "ราศีดิบ โปรเจ็กต์" ทำวง 3 ชิ้นอยู่ เป็นเบส กลอง กีตาร์ ผสมกับซึงที่เครื่องดนตรีพื้นเมือง คงจะเป็นอัลบั้มใหม่เร็วๆ นี้ เป็นเพลงออกแนวบรรเลง ซ้อมวันละ 2-3 ชั่วโมง ไม่หนักมาก เพราะในวงจะรุ่นๆ ใกล้กัน หลักสี่อัพ (หัวเราะ) แต่ก็สนุกๆ แบ่งเวลากันมาเล่น คนแก่แล้วทำงานช้า (ยิ้ม) แล้วก็จะมีเพลงร้องอีก 1 ชุด เป็นชุดของผมเอง ใครสนใจติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.live.banleng.com
นอกจากดนตรีแล้วชีวิตประจำวันทำอะไร
บางทีก็ช่วยเสิร์ฟข้าวแกงให้แม่บ้าน ผมเคยไปจ่ายตลาด เดินผ่านหน้าผับตอนตี 4 เห็นคนเมากำลังออกจากผับ หันไปอีกฟากเห็นชีวิตคนที่กำลังทุบหัวปลา หั่นผัก ขายขนมกะทิ ซึ่งต่างกันอย่างสิ้นเชิง เรื่องพวกนี้เป็นแรงบันดาลใจเรื่องแต่งเพลงได้หมด แล้วก็ให้แง่คิดเราด้วย อยากรู้ต้องออกไปเดินตลาดตีสี่ตีห้า จะได้รู้อีกรสชาติ
ทำไมศิลปินชอบมาอยู่เชียงใหม่กัน
อาจเป็นเพราะบรรยากาศในการทำงาน มันไม่เหมือนกรุงเทพฯ ที่กรุงเทพฯมันวุ่นวาย มีปัญหาเรื่องการจราจรไปไหนทีครึ่งวันแล้ว กำลังคิดงานออกก็หายไปแล้ว
ในสายตาเชียงใหม่ตั้งแต่ที่มาอยู่ถึงตอนนี้เปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน?
เปลี่ยนไปมาก การก่อสร้างเยอะขึ้น ฝุ่นควันก็เยอะ ปีที่แล้วนี้หนัก ก็หงุดหงิดบ้าง บางทีเราก็ส่งเสียงนิดหน่อย จะรวมกลุ่มกันภายในเชียงใหม่ ใครมีเรื่องอะไรก็ส่งสารกันไป อย่างซีดีชุดเชียงดาวของกลุ่มภาคีฮักเจียงใหม่ เขาอยากทำเพลง เราก็ช่วยเหลือให้แง่คิดเรื่องเพลง ทำเพลงได้ก็ทำไป ช่วยกัน
อยากสื่อสารความเป็นล้านนาเพียวๆ ไหม?
ผมไม่ได้มาสายนี้โดยตรง ชอบที่จะประยุกต์มากกว่า มีเพื่อนฝรั่งเขาทำห้องอยู่แถวสันกำแพงเขาบอกว่าดนตรีบ้านเราบางทีมันน่าเบื่อ ไม่น่าสนใจ ผมก็บอกว่าจริงๆ มันน่าสนใจนะ แต่คุณไม่สนใจเอง
ผมบอกว่างั้นเดี๋ยวเราจะทำให้น่าสนใจ ตอนนี้หลายๆ คนก็ทำอยู่ แล้วคนที่เก่งเรื่องแบบแผนเดิมก็จะมีอยู่ แต่เราชอบที่จะเห็นว่าร่วมสมัยก็ไม่ใช่ จะว่าโมเดิร์นก็ไม่เชิง แต่อยากให้มันมีสีสันที่บางทีมันเป็นสีใหม่ๆ เช่น เสียงสะล้อแบบนี้ถ้าได้อยู่อีกบรรยากาศหนึ่งจะเป็นยังไง หรือถ้าเวลาได้ฟังก็จะคิดอยู่ตลอดว่ามันมีอะไรอยู่ในนั้น ซึ่งมันสนุก
แสดงว่าพื้นเมืองยังมีอะไรให้เล่นอีก
เยอะครับ ไม่ตัน ถ้าตันนี่คือเราตันเอง มันเหมือนเราไปบล็อควิธีคิดของเราว่ามันหมดแล้ว มีแค่นี้แหละ เหมือนคำพูดที่ว่าโลกนี้ไม่มีอะไรใหม่ มันก็จริงว่าไม่มีอะไรใหม่ แต่ถ้าไม่มีคนทำอะไรมาใหม่ๆ อีก มันก็จะหยุดนิ่ง แต่เราไม่ได้คิดเรื่องใหม่-ไม่ใหม่ เราคิดเรื่องมันเป็นไปได้หรือเปล่า
เป็นคนรักในความเป็นล้านนาสูง
เพราะคุ้นกับเครื่อง กับเสียง-เสียงซอ สะล้อ ปี่ ซึง และตอนนี้เราสนใจจะกลับไปหาในลักษณะเด็กนักเรียนต้องไปศึกษาจากผู้เฒ่าผู้แก่ว่าเขาเล่นดนตรีกันมายังไง มีวิวัฒนาการมายังไง
แต่อย่างว่าของที่เราสนใจมากที่สุดอาจจะไร้ค่าที่สุดสำหรับคนที่ไม่สนใจ หรือของที่มีค่าสำหรับคนอื่นเราอาจจะไม่รู้สึกอะไรเลยก็ได้
ตอนนี้คิดจะเข้าสู่ดนตรีกระแสหลักไหม?
อืม...มม...คิดไหม... ก็คิดนะ คิดแบบสนุกๆ ว่า เฮ้ย...มาดังตอนแก่จะยุ่งนะเว้ย (หัวเราะ)
"เดี๋ยวรับมือไม่ไหว"
หน้า 17
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01fun01260452§ionid=0140&day=2009-04-26
Rediscover Hotmail®: Get quick friend updates right in your inbox. Check it out.
“SWITCH ON” แฟรนไชส์เสื้อมือสอง เส้นทางสร้างอาชีพของคนเงินน้อย
"SWITCH ON" แฟรนไชส์เสื้อมือสอง เส้นทางสร้างอาชีพของคนเงินน้อย |
![]() |
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ | 16 มีนาคม 2552 10:13 น. |
![]() |
|
Windows Live™ Hotmail®:…more than just e-mail. Check it out.
รายการบล็อกของฉัน
ผู้ติดตาม
คลังบทความของบล็อก
-
▼
2009
(278)
-
▼
เมษายน
(97)
- วันที่ 30 เมษายน 2552 เวลา 10.00-12.00 น. ณ. ห้องป...
- QSNCC E-News :: 28 April, 2009
- ภัควดี: การประนีประนอมระหว่างสี: ตัวอย่างแนวทาง “อ...
- นิทรรศการ "ทัศนศิลป์สร้างสรรค์"
- ซอฟต์แวร์ทดสอบคลื่นมือถือ เวอร์ชั่นใหม่ ติดแท็กซี่
- รังสรรค์ ราศีดิบ นักดนตรีร่วมสมัย หัวใจสะล้อ ซอ ซึง
- “SWITCH ON” แฟรนไชส์เสื้อมือสอง เส้นทางสร้างอาชีพข...
- พม.ผุด “แม่วัยใส” สกัดเด็กท้องก่อนวัย แฉไทยมีแม่วั...
- วันที่ 2 – 10 พฤษภาคม 2552 ณ อิมแพคอารีน่าเมืองทอ...
- หมดยุคอู้ฟู่! รบ.มาร์ค หั่นงบ ขรก.เที่ยวนอก จี้ประ...
- ปลดล็อก"หนี้ขายทรัพย์"-หักเงินต้นแทนดอกเบี้ย
- ความฝันที่ไม่น่าจะเกิดได้ / สยามรัฐผลัดใบ
- รัฐบาลหนุนชุมชนพอเพียงฯ ยึดหลักเบญจภาคี เป็นต้นแบบ
- บ้านพักฉุกเฉิน ชวนบริจาคของเล่นให้แก่เด็กด้อยโอกาส...
- พระแก้วมรกตน้อย
- จัดโซนนิ่งถนนเก็บเงิน การใช้มาตรการควบคุมจำนวนรถ...
- หนึ่งนักเรียนหนึ่งมือถือ
- ไร้สายจะช่วยแก้วิกฤติ
- ร้องเพลง พ้อเลป่า
- เยือนรัง “พ้อเลป่า”ปราชญ์ปกากะญอ คนเขียนหนังสือ: เ...
- ผบ. ร.12 พัน.2 รอ.แจงผ่านเน็ตไม่ได้ทำร้ายหญิงเสื้อ...
- รายงาน ‘เขื่อนสิรินธร’ : ความยุติธรรมที่ล่าช้า การ...
- บลูมเบิร์ก : ความแตกแยกของคนไทยอาจกระตุ้นให้เกิดคว...
- จดหมายเปิดผนึกจาก ‘ภัควดี’ ถึงนักสันติวิธี : โปรดน...
- ม.ล.‘ปลื้ม’ : บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์การเปลี่ยนแปลง
- เปิด ‘พื้นที่ความเห็นต่าง’ อย่าขยาย ‘พื้นที่ยัดเยียด’
- Just War !?
- ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ตำหนิเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า
- เปิดใจแม่ทัพการรถไฟฯ ยุทธนา ทัพเจริญ "Airport Link...
- ศาสตร์ฮวงจุ้ยของพฤกษาฯ คอนโดฯ Ivy Chinatown
- สินเอเซียกับโจทย์แบงก์ไร้สาขา "Banking in The Sky"
- ทอท.ทำพิลึกทิ้งเค้กรายได้ 523 ล. จ่อยกเลิกสัญญา"แท...
- "ทิก้า-สสปน."ปลุกไมซ์ในปท. ลุยอบรมคนจัดโรดโชว์ 8 แห่ง
- คลื่นแห่งการเปลี่ยนแปลง โลกไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว แต...
- 13 ปี "pantip-bloggang" จุดพลุ โมเดล"เปิดหมวก" บนโ...
- "มิลคอม"ม้ามืด ยึด"สุวรรณภูมิ" ให้บริการ"ไวไฟ"
- มองเชียงใหม่ ผ่าน "คำ ผกา" นิวยอร์กแห่งล้านนา สาวเ...
- ฝันของใครบางคน ตั้งใจไว้ว่าจะเป็นนักเขียน แต่เส้นท...
- เปรียบการต่อสู้ "ปรีดี -ทักษิณ" 2475 เสี่ยงกว่า 25...
- รับมือสังคมผู้สูงอายุ ตั้งระบบบำนาญแห่งชาติ
- สบท. ระบุผู้บริโภคยังไม่สนใจอ่าน สัญญาเพื่อรักษาสิทธิ
- เมื่อรัฐร่วมสร้างอนาคตให้เอกชนใน อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์
- เผยวิธีการทำงานของเจ้าหนอนร้าย
- งานฝังลูกนิมิตโบสถ์จตุรมุข เยี่ยมชมชม"นรก-สวรรค์"ว...
- หอมดอกลำดวน เลาะเลียบคลองผดุงฯ ตุลย์ ณ ราชดำเนิน...
- หมิ่นประมาทออนไลน์ หลักฐานใดเชื่อถือได้
- งานศิลป์ในอวกาศ เจ๊าะแจ๊ะวิทยาศาสตร์
- คอลัมน์ โฆษกชาวบ้าน
- ความจริง 5 ประการ ของระบบเผาผลาญในร่างกาย
- สถานดูแลผู้สูงอายุไทยไร้มาตรฐาน นักวิชาการแนะรัฐหน...
- ระบอบม็อบ"Mobocracy"
- สารและตัวยาที่ทำให้หน้าขาวใส
- ประโยชน์ของเห็ดหอม
- องค์คู่ขวัญเคียงข้าง 50 ปี
- จัดโซนนิ่งถนนเก็บเงิน การใช้มาตรการควบคุมจำนวนรถ...
- เอ็นจีโอไม่เห็นด้วยผุดปางช้างในกรุง
- ลดโทษอดีตข้าราชการทุจริตที่ดินบางซื่อไล่ออกเหลือปล...
- แบ่งปันกิจกรรมเครือข่ายชีวิตสิกขา กิจกรรมศิลปะเพื่...
- ที่เมืองไทย ประชาธิปไตยมีคนคอย "คิดแทน"
- การปฏิรูปการเมืองไทย โดย สวัสดิ์ นิเทศวรวิทย์ สถาบ...
- "สุขา สังฆัสสะ สามัคคี ความพร้อมเพรียงของหมู่คณะ ท...
- สิ่งที่ถูกมองข้าม การปฏิรูปการเมืองไทย
- ธงนำ ความคิด ธง การเมือง สูงเด่น เหนือ การทหาร
- ขอเชิญร่วมงานสัมมนา "Elliott Wave and Fibonacci Tr...
- ขอเรียนเชิญเข้าร่วมงาน "Technical Day" ฟรี !!!
- Handel’s 250th Anniversary Concert
- เที่ยวหลากหลายในภาคกลางไปกับ 9 คนดัง
- REMINDER - Give your opinion on the EU and the sta...
- จับกระแสสินค้ารักษ์สิ่งแวดล้อม Reuse Reduce Recycl...
- คุย 3 ทูต 3 รส เรื่องเศรษฐกิจไทย "อียู-สหรัฐ-ฝรั่ง...
- ภัยร้ายรายวัน:ระวังฟ้าผ่า
- : 'ปฏิทินสงกรานต์' ร้อยเรื่องราวปีใหม่ไทย
- : เย็นทั่วหล้ามหาสงกรา นต์ ไหว้พระขอพร 9 อา รามหลวง
- Re: สืบสานประเพณีปีใหม่ไทย เล่าขานตำนาน 'นางสงกรานต์'
- เล่าเรื่อง "เหล้า" น้ำเมาเปลี่ยนนิสัย
- ชีวิต "โอทอง คำอินซู" "ฮุ่งอะลุน แดนวิไล" ซีไรต์ "...
- "ไม่สิ้นคม" แม้สิ้นลมหายใจ "รงค์ วงษ์สวรรค์" จอมกร...
- สงบงามตามวิถี ปกาเกอะญอ
- ปลูกมันสำปะหลังแบบอนุรักษ์ดิน-น้ำ ผลผลิตเพิ่มจาก 2...
- แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร... กระตุ้นเศรษฐกิจไทยคึกคัก
- "อาคารวังแดง" เรียบง่ายตรงไปตรงมา
- "วังลดาวัลย์" ปฐมบทของการอนุรักษ์
- เมืองโบราณ
- Join new's network on Windows Live
- ถึงเวลา... "พ.ร.บ.จัดระเบียบการชุมนุม"หรือยัง?
- บทแรกของ โตเกียว ทาวเวอร์ แม่ กับผม กับพ่อบ้าง
- คริสตจักรที่ 1 สำเหร ่
- ต้นละม่อม ไม้ใหญ่ที่ตายไม่ได้
- ข้าวแช่แม่ยุ้ยเริ่มขายแล้วจ้า
- กทช.สัมมนาระดมไอเดียฝรั่ง หวังดันโทรคมก้าวกระโดด
- กุหลาบขาวบานลานร่องกล้า
- นับนกน้ำ
- การล้างผักสดให้ปลอดภัย
- สังเกตอาการต้อกระจก
- ขยายโครงการหมักก๊าซชีวภาพ
- ทุจริตฝายแม้ว อย่าให้หายไปในสายลม(ร้อน)
- "โอ๊ค-เอม-อิ๊ง"แชร์ประสบการณ์ "ตอนนั้น ถ้าทหารจับ ...
-
▼
เมษายน
(97)
เกี่ยวกับฉัน

- sundara
- ข่าวสาร ข้อมูล ทุกด้านต้องรับฟัง ไม่เชื่อสิ่งที่เห็น ฟังข่าวสารเพียงฝ่ายเดียว ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/ http://twitter.com/jiew ● ปรึกษาปัญหากฏหมาย ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์ ปัญหาติดต่อราชการ ฟรี ● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล, ● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work สำนักพิมพ์ดาวหาง www.sanamluang.bloggang.com สนใจติดต่อสอบถาม workingmailhome@hotmail.com