เงินกู้ Public Sector Reform Development Policy Loan (PSRDPL) จากธนาคารโลก

เงินกู้ Public Sector Reform Development Policy Loan (PSRDPL) จากธนาคารโลก / สำนักข่าวราชดำเนิน

สิงห์หนองจอก15/5/2552

เงินกู้ Public Sector Reform Development Policy Loan (PSRDPL) จากธนาคารโลก                   ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2552 ให้ความเห็นชอบในหลักการการกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน วงเงิน 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐจากสถาบันการเงินและองค์การระหว่างประเทศ ซึ่งประกอบด้วยเงินกู้จากแหล่งเงินกู้ทางการ 3 แหล่ง คือ ธนาคารโลก ธนาคารพัฒนาเอเชีย และองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น และต่อมาในคราวประชุมร่วมกันของรัฐสภาเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2552 รัฐสภาได้ให้ความเห็นชอบในกรอบการเจรจากู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานนั้น                 กระทรวงการคลังขอแจ้งความเป็นมา ความคืบหน้าในการดำเนินการ และความเห็นที่เกี่ยวข้องกับเงินกู้ Public Sector Reform Development Policy Loan (PSRDPL) จากธนาคารโลก วงเงิน 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ดังนี้                 วัตถุประสงค์                 ใช้ในการสนับสนุนโครงการลงทุนภาครัฐที่สนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะยาว หรือเป็นการกู้เงินเมื่อมีความจำเป็นต้องกู้เงินเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินของประเทศ โดยการสนับสนุนมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาลด้วยการเพิ่มสภาพคล่องให้กับระบบการเงินและระบบเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อขยายสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมผู้ส่งออกและผู้ประกอบการภาคการผลิตอื่นๆ รวมถึงการค้ำประกันสินเชื่อผ่านสถาบันการเงินของรัฐ                 กฎหมายที่เกี่ยวข้อง                 1. การดำเนินการของกระทรวงการคลังในการทาบทามและจัดหาแหล่งเงินกู้จากต่างประเทศอยู่ภายใต้อำนาจของกระทรวงการคลังตามพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2551 ซึ่งได้ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม โดยให้กระทำได้เมื่อมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินนอกเหนือจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีและต้องใช้เป็นเงินตราต่างประเทศ หรือจำเป็นต้องกู้เงินเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินของประเทศ                 2. ภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 190 วรรคสอง ได้กำหนดว่า "หนังสือสัญญาใดมีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทย หรือพื้นที่นอกอาณาเขต ซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตยหรือมีเขตอำนาจตามหนังสือสัญญาหรือตามกฎหมายระหว่างประเทศ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้เป็นไปตามหนังสือสัญญา หรือมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจหรือสังคมของประเทศอย่างกว้างขวาง หรือมีผลผูกพันทางการค้า การลงทุน หรืองบประมาณของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา ในการนี้ รัฐสภาจะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับเรื่องดังกล่าว" และมาตรา 190 วรรคสาม ได้กำหนดว่า "ก่อนการดำเนินการเพื่อทำหนังสือสัญญากับนานาประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศตามวรรคสอง คณะรัฐมนตรีต้องให้ข้อมูลและจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและต้องชี้แจงต่อรัฐสภาเกี่ยวกับหนังสือสัญญานั้น ในการนี้ ให้คณะรัฐมนตรีเสนอกรอบการเจรจาต่อรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบด้วย"                 การดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง            1. เงินกู้ Public Sector Reform Development Policy Loan (PSRDPL) จากธนาคารโลกวงเงิน 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นเงินกู้ลักษณะ Program Loan ที่พิจารณาให้ประเทสผู้กู้กู้จากปัจจัยโดยรวมของประเทศ โดยจะนำเสนิความสำเร็จของประเทศไทยในด้านการรับมือกับปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ (Response to the Crisis)  การพัฒนาระบบการบริหารงบประมาณเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการงบประมาณการเงินและการคลังของประเทศ (Public Financial Management) การบริหารจัดการระบบราชการ (Public Administration) และการให้บริการของหน่วยงานราชการ (Service Delivery) เพื่อนำเสนอให้คณะกรรมการบริหารธนาคารโลกพิจารณาให้เงินกู้แก่ประเทศไทย ทั้งนี้ ในการดำเนินการขอกู้เงินจากธนาคารโลก ประเทศไทยจะต้องทำกรอบนโยบายมาตรการ (Policy Matrix) เกี่ยวกับความสำเร็จในด้านดังกล่าวข้างต้น โดยนโยบายจ่างๆ ที่กล่าวข้างต้นเป็นสิ่งที่หน่วยงานได้มีการดำเนินการแล้ว หรืออยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งนโยบายที่อยู่ในกรอบนโยบายมาตรการ (Policy Matrix) ธนาคารโลกไม่ถือว่าเป็นข้อผูกมัดที่ประเทศไทยจะต้องดำเนินการให้สำเร็จเพื่อให้ได้เงินกู้ (unconditionality)                 2. . ในการนี้ กระทรรวงการคลังได้แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณากรอบนโยบายภายใต้เงินกู้ PSRDPL ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากสำนักงบประมาณ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรมบัญชีกลาง กรมสรรพากร สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน โดยมีอำนาจหน้าที่ในการเตรียมเอกสารประกอบการกู้เงินตามระเบียบและขั้นตอนการดำเนินการกู้เงินของธนาคารโลก และกรอบนโยบายมาตรการให้เป็นไปอย่างถูกต้องและทันตามกำหนดเวลา                 กระทรวงการคลังได้เจรจาเงินกู้กับคณะผู้แทนธนาคารโลก โดยมีผลการเจรจา ดังนี้             เงื่อนไขสัญญากู้เงิน ผู้กู้                                               :  กระทรวงการคลังในนามรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย ผู้ให้กู้                                          :  ธนาคารโลก วงเงินกู้                                       :  เป็นเงินกู้สกุลเงินเหรียญสหรัฐ อัตราดอกเบี้ยลอยตัว ในวงเงิน  1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ การเบิกจ่ายเงินกู้                         :  ภายในวันที่ 1 สิงหาคม 2553 (ซึ่งสามารถขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายได้ ตามความจำเป็น) ระยะเวลากู้เงิน                           :   20 ปี (รวมระยะเวลาปลอดหนี้ 8 ปี) งวดการชำระดอกเบี้ย                 :  ชำระดอกเบี้ยปีละ 2 ครั้ง การชำระคืนต้นเงินกู้                  :  แบ่งเป็น 24 งวด กำหนดชำระปีละ 2 ครั้ง โดยเริ่มชำระคืน เงินกู้งวดแรกในวันชำระดอกเบี้ยงวดที่ 18 และชำระคืนต้นเงินกู้งวดสุดท้ายในวันชำระดอกเบี้ยงวดที่ 24  Front-end Fee                            : อัตราร้อยละ 0.25 ของวงเงินกู้  อัตราดอกเบี้ย                             : ใช้อัตราดอกเบี้ยลอยตัวของเงินกู้สกุลเงินเหรียญสหรัฐซึ่งมีวิธีคำนวณตามอัตราต้นทุนการกู้เงินของธนาคารโลกบวกค่าธรรมเนียมและส่วนต่าง ซึ่งธนาคารโลกจะปรับอัตราดอกเบี้ยทุก 6 เดือน                                                                  (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสกุลเงินเหรียญสหรัฐระยะเงินกู้เฉลี่ย 15 ปี   อยู่ที่ ร้อยละ 3.55)    เงื่อนไขอื่นๆ                           : สัญญากู้เงินต้องมีผลบังคับใช้ภายใน 90 วัน หลังจากวันลงนามในสัญญา ความเห็นของกระทรวงการคลัง 1.  กรอบนโยบายมาตรการ (Policy Matrix) ต่างๆ ที่กล่าวข้างต้นเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของการปฏิรูประบบการดำเนินการของภาคราชการที่มีความโปร่งใส รวดเร็ว และตรวจสอบได้ ซึ่งไม่ได้เป็นเงื่อนไขที่รับบาลไทยต้องปฏิบัติตามหรือแก้ไขกฎหมายใดๆ เพิ่มเติมทั้งสิ้น เนื่องจากเป็นการดำเนินการที่เสร็จสิ้นแล้ว 2.  เงื่อนไขเงินกู้ในข้อ 3.2 ข้างต้นเป็นไปตามมาตรฐานที่ธนาคารโลกกำหนดให้กู้แก่ประเทศสมาชิกทั่วไป จึงเห็นสมควรรับได้ 3. สำหรับการกลั่นกรองโครงการภายใต้เงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน กระทรวงการคลังจะขอรับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณา โดยจะพิจารณากลั่งกรองโครงการที่จะใช้เงินกู้ฯ ดังกล่าวให้เหมาะสมสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2552 4.  นอกจากนี้ เงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน วงเงิน 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐจะนำเงินบางส่วนไปใช้ในการสนับสนุนโครงการในแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2  (Stimulus Package 2) ในสาขาต่างๆ อาทิ ด้าน Mass transit ด้านน้ำ และด้านสาธารณสุข เป็นต้น

http://www.siamrath.co.th/uifont/Articledetail.aspx?nid=3324&acid=3324

---

Hotmail® has a new way to see what's up with your friends. Check it out.